ดอลล์ฟื้นเทียบเยน-ยูโรที่ตลาดฮ่องกงบ่ายนี้ จากการปรับฐานทางเทคนิค

          ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฟื้นตัวขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินเยนและยูโรที่ตลาดปริวรรตเงินตราฮ่องกงบ่ายนี้ (3 ม.ค.) แม้นักลงทุนยังกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจในสหรัฐ โดยนักวิเคราะห์คาดว่าความกังวลในเรื่องนี้จะเป็นปัจจัยสำคัญที่กดดันค่าเงินดอลลาร์ต่อไป
          โธมัส ฮาร์ นักวิเคราะห์จากธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ดในสิงคโปร์กล่าวว่า "เรายังเห็นว่าค่าเงินดอลลาร์ยังไม่ได้รับปัจจัยบวกที่ชัดเจนในขณะนี้ ซึ่งผมเชื่อว่าการฟื้นตัวขึ้นของเงินดอลลาร์เป็นเพียงการปรับฐาน และยังมีความเป็นไปได้ว่า นักลงทุนอาจเทขายทำกำไรหลังจากที่ค่าเงินดอลลาร์ร่วงลงอย่างหนักเมื่อคืนที่ผ่านมาซึ่งเป็นผลจากตัวเลขภาคการผลิตที่ซบเซาในสหรัฐ"
          สถาบันจัดการด้านอุปทาน (ISM) ของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐในเดือนธ.ค.ปรับตัวลงแตะที่ 47.7 จุดจากระดับ 50.8 จุดในเดือนพ.ย. ซึ่งนับเป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่เดือนเม.ย. 2546 นอกจากนี้ ยังร่วงลงต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ระดับ 50.5 จุด
          โดยตัวเลขที่อยู่ต่ำกว่าระดับ 50 เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจชะลอตัว ขณะที่ตัวเลขที่อยู่เหนือระดับ 50 บ่งชี้ถึงภาวะเศรษฐกิจที่ขยายตัวดีขึ้น
          "ปัจจัยสำคัญที่ฉุดให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงคือการเปิดเผยดัชนี้ (ISM) ซึ่งจะเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้เฟดพิจารณาปรับลดดอกเบี้ยอีก" นายฮาร์กล่าว
          นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นแตะระดับ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเป็นครั้งแรกเมื่อคืนที่ผ่านมายังทำให้เกิดความหวั่นวิตกว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะชะลอตัวลงรวดเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้
           สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ณ เวลา 12.00 น. ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นแตะที่ 109.64 เยนต่อดอลลาร์ จากระดับ 109.55 เยนต่อดอลลาร์ที่ตลาดออสเตรเลียเช้านี้ และแข็งค่าขึ้นจากระดับ 109.48 เยนต่อดอลลาร์ที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้
          ขณะที่ค่าเงินยูโร่อนค่าลงแตะระดับ 1.4707 ดอลลาร์ต่อยูโร จากระดับ 1.4727 ดอลลาร์ต่อยูโรเมื่อเช้านี้ และ 1.4725 ดอลลาร์ต่อยูโรเมื่อคืนที่ผ่านมา
          นอกจากนี้ นักลงทุนต่างกำลังจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนธ.ค.ของสหรัฐซึ่งจะมีการรายงานออกมาในวันศุกร์นี้