นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เผยปัจจุบันนิติบุคคลสามารถนำส่งงบการเงินผ่านระบบ DBD e-Filing ด้วยเอกสารงบการเงินเพียงชุดเดียว ซึ่งใช้ได้ทั้งกรมพัฒนาธุรกิจการค้าและกรมสรรพากร โดยเป็นการอำนวยความสะดวกและช่วยลดภาระผู้ประกอบการที่มีหน้าที่ต้องยื่นงบการเงินทั้ง 2 หน่วยงานพร้อมกันตาม พ.ร.บ.การอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ.2558
สำหรับการนำส่งงบการเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (DBD e-Filing) สามารถช่วยลดความสุ่มเสี่ยงการเสียค่าปรับจากการนำส่งงบการเงินล่าช้า รวมถึงช่วยให้ผู้ทำบัญชีและผู้สอบบัญชีสามารถวางแผนงานได้ดี โดยสามารถจัดเตรียมงบการเงินและนำส่งต่อกรมได้ทันเวลา หากวางแผนได้ดีก็ย่อมเป็นประโยชน์ทั้งต่อบริษัทเอง ต่อนักธุรกิจ นักลงทุน คู่ค้าทางธุรกิจ และนำข้อมูลงบการเงินไปใช้ในการวิเคราะห์แนวโน้มผลประกอบธุรกิจ รวมถึงงบการเงินในเชิง Business Model ได้ เพื่อให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีสามารถพิจารณาข้อมูลเชิงลึก
"ระบบ DBD e-Filing ช่วยให้การนำส่งด้วยเอกสารงบการเงินเพียงชุดเดียว สามารถใช้ได้ทั้งกรมพัฒนาธุรกิจการค้าและกรมสรรพากร เพื่ออำนวยความสะดวกและลดภาระของผู้ประกอบการที่มีหน้าที่ต้องนำส่งงบการเงินทั้ง 2 หน่วยงาน" นายวุฒิไกร กล่าว
ทั้งนี้ กรมฯ ได้จัดเจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำขั้นตอนการนำส่งงบการเงิน พร้อมทั้งเตรียมเครื่องคอมพิวเตอร์กว่า 30 เครื่อง ไว้คอยอำนวยความสะดวกและรองรับนิติบุคคลที่ต้องการนำส่งงบการเงินผ่านระบบ DBD e-Filing โดยนิติบุคคลที่จัดทำงบการเงินและบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นเสร็จเรียบร้อยแล้ว สามารถติดต่อขอรับบัตรคิวเพื่อนำส่งงบการเงินผ่านระบบดังกล่าวได้
อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กล่าวว่า การนำส่งงบการเงินผ่านระบบ DBD e-Filing จะช่วยให้เกิดความรวดเร็วในการสนับสนุนข้อมูลแก่หน่วยงานภาครัฐ เพื่อใช้ในการตรวจสอบและกำกับดูแลธุรกิจ รวมถึงการนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ในการกำหนดนโยบายในการส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจระดับประเทศ ตลอดจนเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจเข้ามาร่วมลงทุนของนักลงทุนชาวต่างชาติ