หลักเกณฑ์ใหม่จะกระทบกับลูกค้าของ ธอส.ที่ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่มีรายได้น้อยและรายได้ปานกลางที่ต้องการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยจริง ไม่ได้เป็นการแสวงหาผลกำไร โดยหลักเกณฑ์ใหม่ใช้สำหรับลูกค้าที่ต้องการกู้บ้านหลังที่สอง แต่ยังผ่อนหลังแรกไม่หมด ซึ่งปัจจุบัน ธอส.มีลูกค้าในลักษณะนี้มาก เช่นมีบ้านอยู่ไกล แต่ต้องการซื้อคอนโดมิเนียมในเมืองใกล้ที่ทำงาน
ดังนั้น จึงอยากเสนอให้ ธปท.พิจารณาปรับหลักเกณฑ์ให้มีความเหมาะสม โดยให้ผ่อนปรนเกณฑ์วางเงินดาวน์อย่างน้อย 20% ของมูลค่าหลักประกัน (LTV limit 80%) ให้คุมเฉพาะบ้านหลังที่ 2 ที่มีราคาตั้งแต่ 3 ล้านบาทขึ้นไป รวมทั้งเสนอให้เลื่อนเวลาบังคับใช้เกณฑ์ดังกล่าวจากที่กำหนดเริ่มวันที่ 1 ม.ค.62 ออกไปก่อน เพื่อให้ธนาคารพาณิชย์และภาคธุรกิจมีเวลาปรับตัว
"ธปท.ควรกำหนดนิยามเกณฑ์คุมสินเชื่อที่อยู่อาศัยให้มีความชัดเจน โดยเฉพาะบ้านหลังที่สอง ซึ่งปัจจุบันมีความจำเป็น โดยเฉพาะลูกค้า ธอส. ที่ขอสินเชื่อไป ก็เพื่อใช้อยู่จริง ไม่ได้ใช้เก็งกำไร หรือนำไปขายต่อ หากนำเกณฑ์ไปปฏิบัติก็จะกระทบกับลูกค้าของ ธอส.ซึ่งปัจจุบันมีการให้สินเชื่อบ้านหลังที่สองจำนวนมาก"นายฉัตรชัย กล่าว
นายฉัตรชัย กล่าวว่า ธอส.จะขอความเห็นจากกระทรวงการคลังเกี่ยวกับเกณฑ์ดังกล่าวของ ธปท. หากกระทรวงการคลังให้นโยบายดำเนินการอย่างไรก็จะปฏิบัติตาม เบื้องต้นจะหารือผ่านผู้แทนกระทรวงการคลังในการประชุมคณะกรรมการ ธอส.วันที่ 29 ต.ค.61
ด้านแหล่งข่าวจากธนาคารพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในช่วงเช้าเป็นการรับฟังความคิดเห็นจากธนาคารพาณิชย์ และ สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ ซึ่งได้มีการเสนอความเห็นต่อ ธปท.ใน 6 เรื่อง คือ 1.ให้วางเงื่อนไขผ่อนปรนช่วงเปลี่ยนผ่านสำหรับเกณฑ์การนับบ้านหลังสอง ซึ่งปัจจุบันมองว่าบ้านหลังที่สองมีความจำเป็นต่อการใช้ชีวิต หรือ อาจปรับไปใช้เกณฑ์สำหรับบ้านหลังที่สามขึ้นไป หรือกรณีลูกค้าทำสัญญาซื้อก่อนออกประกาศ แต่บ้านสร้างเสร็จพร้อมโอนหลัง ม.ค.62 จะต้องบังคับใช้เกณฑ์ย้อนหลังหรือไม่ และเสนอให้ ธปท.มีการชะลอการเริ่มใช้เกณฑ์ดังกล่าวออกไปเพื่อให้ธนาคารปรับตัว
สำหรับข้อเสนอที่ 2.ในกรณีที่เป็นการกู้ร่วมจะนับจำนวนสัญญาอย่างไร 3.แนวทางการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ตามเกณฑ์ใหม่ 4.เงื่อนไขรายละเอียดของราคากรณีรีไฟแนนซ์ จะมีการปรับวงเงิน หรือ ปรับเกณฑ์วางเงินดาวน์อย่างน้อย 20% ของมูลค่าหลักประกันหรือไม่ 5.ขอให้ยกเว้นการนับมูลค่าหลักประกัน กรณีซื้อประกันชีวิต และ 6. กรณีนำบ้านไปขอสินเชื่อ SME ต่อจะมีแนวทางปฏิบัติอย่างไร