ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก:ดอลล์อ่อนเทียบยูโร ขณะตลาดจับตาข้อมูลจ้างงานสหรัฐ

          ภาวะการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (3 ม.ค.) ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและเงินเยน ก่อนที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรในวันศุกร์ โดยดอลลาร์ยังคงได้รับแรงกดดันจากข้อมูลด้านการผลิตที่อ่อนแอเกินคาดของสหรัฐ
          สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินยูโรแข็งแกร่งขึ้นแตะระดับ 1.4744 ดอลลาร์ต่อยูโร จากระดับของวันพุธที่ 1.4726 ดอลลาร์ต่อยูโร แต่ค่าเงินปอนด์อ่อนตัวลงแตะระดับ 1.9732 ดอลลาร์ต่อปอนด์ จากระดับ 1.9802 ดอลลาร์ต่อปอนด์
          นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงแตะระดับ 109.33 เยนต่อดอลลาร์ จากระดับ 109.43 เยนต่อดอลลาร์ อีกทั้งร่วงลงแตระดับ 1.1114 ฟรังซ์สวิสต่อดอลลาร์ จากระดับ 1.1178 ฟรังซ์ต่อดอลลาร์ และอ่อนตัวลงแตะระดับ  99.04 เซนต์แคนาดาต่อดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 99.07 เซนต์แคนาดาต่อดอลลาร์สหรัฐ
          ดอลลาร์ยังคงได้รับแรงกดดันจากรายงานของสถาบันจัดการด้านอุปทาน (ไอเอสเอ็ม) ของสหรัฐที่ระบุว่า ดัชนีภาคการผลิตประจำเดือนธ.ค.ร่วงลงสู่ระดับ 47.7% จากเดือนพ.ย.ที่ระดับ 50.8% ซึ่งทำให้เกิดความกังวลว่าเศรษฐกิจสหรัฐอาจชะลอตัวลงรวดเร็วกว่าที่ประเมินไว้ในเบื้องต้น เนื่องจากดัชนีที่ระดับต่ำกว่า 50 จุดบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจกำลังชะลอตัวลง และดัชนีที่เหนือระดับ 50 จุดบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจกำลังขยายตัวขึ้น
          นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนธ.ค.ซึ่งสหรัฐจะเปิดเผยในคืนวันศุกร์ (ตามเวลาประเทศไทย) เพราะต้องการประเมินว่าตลาดแรงงานของสหรัฐในปีนี้จะยังคงแข็งแกร่งเหมือนกับปีที่แล้วหรือไม่
          นายแอนดรูว์ วิลคินสัน นักวิเคราะห์จากบริษัทอินเตอร์แอคทีฟ โบรกเกอร์ส กรุ๊ป กล่าวว่า "ดอลลาร์ยังคงได้รับแรงกดดันจากความกังวลเรื่องแนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐ การที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยไปแล้ว 3 ครั้งสะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจกำลังเข้าสู่ภาวะวิกฤติ และสถานการณ์เศรษฐกิจในขณะนี้ทำให้นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เชื่อว่าเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยอีก"
          ทั้งนี้ การปรับลดอัตราดอกเบี้ยแม้มีข้อดีคือช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวขึ้น แต่จะเป็นปัจจัยลบต่อสกุลเงินดอลลาร์ เพราะจะทำให้สินทรัพย์ในรูปสกุลเงินดอลลาร์มีมูลค่าน้อยลงและไม่น่าดึงดูดใจ