ธปท.มองเงินเฟ้อพื้นฐานยังไม่กดดันขึ้นดอกเบี้ย/เล็งปรับสมมติฐานน้ำมัน

          นางอมรา ศรีพยัคฆ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจในประเทศ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) กล่าวว่า แม้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปล่าสุดเดือน ธ.ค.50 เร่งตัวขึ้นถึง 3.2% แต่ยังไม่เห็นสัญญาณที่เศรษฐกิจไทยจะเผชิญกับภาวะการชะลอตัว เนื่องจากระดับดังกล่าวยังไม่ถือว่าสูงมากนัก ประกอบกับอัตราการเติบโตเศรษฐกิจ(GDP)ปี 50 ยังขยายตัวสูงใกล้เคียง 5% 
           ธปท.มองว่านโยบายอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นอาจยังไม่มีความจำเป็นต่อภาวะเศรษฐกิจในช่วงนี้ เนื่องจากหากพิจารณาอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยปี 50 ยังถือว่าต่ำอยู่ทั้งเงินเฟ้อพื้นฐานและเงินเฟ้อทั่วไปที่อยู่ระดับ 1.1% และ 2.3% ตามลำดับ ขณะที่เงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ในกรอบประมาณการของธปท.ที่ 0-3.5% 
          “ตอนนี้กำลังดูแรงกดดันของเงินเฟ้อ โดยเฉพาะแรงกดดันจากอุปสงค์ในประเทศทั้งการอุปโภคและการลงทุนในประเทศจะฟื้นอย่างเร่งตัวหรือไม่ แต่ถ้าดูเงินเฟ้อพื้นฐานขณะนี้ยังไม่เห็นแรงกดดันให้ขึ้นดอกเบี้ยเท่าไร" นางอมรา กล่าว 
          นางอมรา กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ของ ธปท.อยู่ระหว่างเตรียมข้อมูลด้านราคาน้ำมัน เพื่อเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)ในวันที่ 16 ม.ค.เพื่อปรับสมมุติฐานราคาน้ำมันในแบบจำลองเศรษฐกิจใหม่ ซึ่งจะเป็นการปรับราคาน้ำมันในกรณีฐานให้สูงขึ้นจากการประชุมกนง.ครั้งก่อน ส่วนสมมติฐานราคาน้ำมันกรณีเลวร้ายสุดต้องมีการพิจารณาอีกครั้ง เนื่องจากราคาน้ำมันยังเร่งตัวขึ้นไม่สูงมากนัก 
          ประกอบกับ ต้องประเมินผลกระทบจากปัญหาซัพไพร์มในตลาดอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐอเมริกาต่อเศรษฐกิจไทย อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาแม้ไทยเผชิญกับปัญหานี้แต่การส่งออกยังขยายตัวได้ดี เพราะมีการปรับตัวด้วยการกระจายตลาด พร้อมกับลดความสำคัญของตลาดสหรัฐลง
          “ตอนนี้เศรษฐกิจไทยยังไม่แน่นอน ทั้งราคาน้ำมัน เศรษฐกิจสหรัฐ และการเมือง ซึ่งเราให้ความสำคัญปัจจัยการเมืองมาก แม้จะได้รัฐบาลใหม่ แต่จะช่วยเร่งฟื้นความเชื่อมั่นการลงทุนโครงการวางระบบสาธารณูปโภคได้หรือไม่ยังไม่รู้" นางอมรา ระบุ