นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รมช.คมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานประชุม คณะกรรมการกำกับดูแลและติดตามผลการดำเนินงานโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวครั้งที่ 7/2561 ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาข้อเสนอของ กรุงเทพมหานคร (กทม.) ด้านการเงินสำหรับการโอนโครงการรวมถึงขั้นตอนการโอนหนี้สิน เพื่อดำเนินการตามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการมอบหมายให้กรุงเทพมหานครเป็นผู้บริหารจัดการเดินรถ ซึ่งมีแผนเปิดให้บริการในเดือนธ.ค. 61 โดยจะสรุปรายงานต่อที่ประชุมคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) เพื่อทราบ ในวันที่ 17 ต.ค.นี้
ทั้งนี้ กทม.ได้รายงานว่า สภากทม.ได้ผ่านร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง การกู้เงินเพื่อใช้ในการรับโอนทรัพย์สินและหนี้สินของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวแล้วอยู่ในขั้นตอนเพื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษา ขณะที่ปัจจุบันการก่อสร้างงานโยธา ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการเสร็จ 100% แล้วเหลือการทดสอบระบบอาณัติสัญญาณไฟฟ้า เครื่องกล และเดินรถ ซึ่งสามารถเปิดเดินรถได้ภายในเดือน ธ.ค.นี้แน่นอน ส่วนช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต งานโยธา คืบหน้ากว่า 80% แล้ว ซึ่งหลังจากนี้ กทม.จะเข้าดำเนินการในส่วนของงานระบบต่อไป
ทั้งนี้ การโอนทรัพย์สินและหนี้สินจากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) ไปให้กทม. ได้ให้ 2 หน่วยได้ทำความเข้าใจตรงกัน ทั้งผู้โอน ผู้รับโอนและกระทรวงการคลังซึ่งเป็นผู้จัดหาเงินกู้ให้กทม. เพื่อให้จัดเตรียมความพร้อมเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาพร้อมๆกัน ในเดือนพ.ย. 61 เพื่อให้สามารถลงนามใน MOU ให้ได้ในเดือนพ.ย.ก่อนเปิดเดินรถในเดือนธ.ค. 61
สำหรับสายสีเขียวใต้ส่วนต่อขยายจากสมุทรปราการ-บางปู ระยะทาง 9.2 กม. กรอบวงเงิน 7,994 ล้านบาท และสายสีเขียวเข้ม ช่วงคูคต-ลำลูกกา ระยะทาง 6.5 กม. กรอบวงเงิน 6,337 ล้านบาทนั้น นายไพรินทร์กล่าวว่า กทม.จะเป็นผู้ตัดสินใจแล้วว่าจะดำเนินการหรือไม่อย่างไร ซึ่งจะต้องดูปริมาณผู้โดยสารด้วย โดยเห็นว่า ช่วงคูคต-ลำลูกกา มีแนวโน้มที่ดี เนื่องจาก สวนสัตว์เขาดินจะย้ายไปอยู่บริเวณนั้น อาจจะเพิ่มปริมาณการเดินทางมากขึ้น นอกจากนี้ กทม.ยังมีแนวคิดจะต่อสายสีเขียว บางหว้า-ตลิ่งชัน อีกด้วย