พลโท สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยังไม่ได้รับรายงานในรายละเอียดเกี่ยวกับร่าง พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ ฉบับที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาปรับแก้ไขแล้ว แต่รับทราบถึงความกังวลของประชาชน พร้อมสั่งการให้ฝ่ายกฎหมายไปดูแลเรื่องดังกล่าว
"หากร่างกฎหมายมีรายละเอียดตามที่มีกระแสข่าว เช่น แค่อ้างเหตุสงสัยว่าจะกระทบความมั่นคงก็สามารถตรวจค้นข้อมูลส่วนตัวและข้อความสนทนาของประชาชนได้ หรือ บุกค้นและยึดอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ได้โดยไม่ต้องมีหมายศาล รวมถึงห่วงว่าจะมีการให้อำนาจแก่เลขาธิการคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติมากจนเกินไป เป็นต้น ก็ไม่เห็นด้วยเช่นกัน เพราะเห็นแต่บทกำหนดโทษและการใช้อำนาจของเจ้าหน้าที่ ซึ่งทั้งหมดนี้ ควรจะต้องมีการกำหนดขอบเขตและมีหลักเกณฑ์ที่ชัดเจน"
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ขอให้ประชาชนอย่าเพิ่งหวั่นวิตก เพราะร่าง พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ ฉบับนี้ ยังต้องเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) อีก ซึ่งมีขั้นตอนในการพิจารณาถึง 3 วาระ นอกจากนี้ ยังได้มอบให้ฝ่ายกฎหมายไปทบทวนรายละเอียดอีกครั้งหนึ่ง โดยเฉพาะเรื่องการใช้อำนาจของเจ้าหน้าที่รัฐ รวมถึงควรพิจารณาว่าจะมีกลไกการตรวจสอบและถ่วงดุลอำนาจกันอย่างไร พร้อมทั้งให้ศึกษากฎหมายที่คล้ายกันในนานาประเทศด้วย และใช้แนวทางนี้ในการพิจารณากฎหมายทุกฉบับ
"ขอให้ทุกหน่วยงานที่จะออกกฎหมายใหม่ ให้ความสำคัญกับขั้นตอนของการรับฟังความคิดเห็นให้มากขึ้น โดยในการเปิดรับฟังความเห็น อาจมีผู้เชี่ยวชาญช่วยสร้างความเข้าใจในเนื้อหาของกฎหมายแต่ละข้อแก่พี่น้องประชาชน เป็นต้น ประเทศไทยจะได้มีกฎหมายที่ให้ความคุ้มครองได้ครอบคลุม ทันสมัย เป็นธรรมต่อทุกคน และไม่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศในด้านต่างๆ ตามเจตนารมณ์ของรัฐบาล"