นักวิเคราะห์คาดตลาดหุ้นเอเชียซบเซาต่อสัปดาห์หน้า เหตุวิตกเศรษฐกิจสหรัฐ

          นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในภูมิภาคเอเชียจะยังคงซบเซาต่อเนื่องในสัปดาห์หน้า เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ
          ข้อมูลด้านการผลิตที่อ่อนแอของสหรัฐและราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นเหนือระดับ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วเอเชียถูกกระหน่ำขายอย่างหนักในการซื้อขายวันแรกของปีพ.ศ.2551 ทั้งนี้ แม้ตลาดหุ้นบางแห่ง อาทิ ตลาดหุ้นฮ่องกงได้ดีดตัวขึ้นในช่วงบ่ายวันนี้ แต่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเป็นการดีดตัวเพียงชั่วคราว ถ้าหากตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐซึ่งจะมีการเปิดเผยในคืนนี้นั้น สะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐกำลังชะลอตัวลงรุนแรงกว่าที่คิด
           นายทสึโยชิ เซกาว่า นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ชินโกะ สตราเทจิสท์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นโตเกียวมีแนวโน้มซบเซาลงอย่างต่อเนื่อง หลังจากดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 18 เดือนที่ 14,691 จุดในวันนี้ อย่างไรก็ตาม นายเซกาว่า คาดว่า ตลาดหุ้นโตเกียวอาจดีดตัวขึ้นหากตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐออกมาแข็งแกร่งกว่าที่คาดการณ์ไว้
          ด้านนายดาเนียล แมคคอร์แมค นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์แมคควอรีกล่าวว่า "ข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐเป็นปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อตลาดหุ้นเอเชียเป็นอย่างยิ่ง ถ้ามีสัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัว ก็จะส่งผลกระทบถึงตลาดหุ้นเอเชียด้วย แม้นักวิเคราะห์หลายคนมองว่าเอเชียจะสามารถรับมือกับภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐได้ แต่ก็เป็นเรื่องยากมากที่จะยับยั้งตลาดให้รอดพ้นจากภาวะผันผวนได้ ซึ่งสถานการณ์ในปีที่แล้วเป็นหลักฐานที่ดี"
          นายแมคคอร์แมคกล่าวว่า ตลาดหุ้นเอเชียโชว์ฟอร์มแข็งแกร่งในปีที่แล้ว โดยเฉพาะตลาดหุ้นจีนที่โดดเด่นนำหน้าตลาดหุ้นอื่นๆ โดยดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ทะยานขึ้นกว่า 97% อย่างไรก็ตาม คาดว่าความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐและมาตรการคุมเข้มด้านการเงินในประเทศจีน อาจเป็นปัจจัยสำคัญที่ถ่วงตลาดหุ้นจีนและตลาดหุ้นฮ่องกงให้อ่อนแรงลง
          "ส่วนตลาดหุ้นที่ย่ำแย่ที่สุดในปีที่แล้วก็คงจะเป็นตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพราะมีความอ่อนไหวต่อปัจจัยภายนอกเป็นอย่างยิ่ง ทั้งนี้ คาดว่าเมื่อเศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวลง ตลาดหุ้นสิงคโปร์ก็จะทรุดตัวลงอีก" นายแมคคอร์แมคกล่าว สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงาน