นางนิภารัตน์ พิสิฐพิทยเสรี รักษาการแทนผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เปิดเผยว่า ผลดำเนินงานรวม 3 ไตรมาสของปี 61 (ม.ค.-ก.ย.) บสย.สามารถช่วยผู้ประกอบการ SMEs ผ่านการค้ำประกันสินเชื่อ 67,834 ล้านบาท คิดเป็นจำนวนหนังสือค้ำประกัน (LG) 64,530 ฉบับ
นอกจากนี้ บสย.ยังเดินหน้าเปิดตัว 2 โครงการใหม่ ซึ่งได้รับการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมา ได้แก่ โครงการค้ำประกันสินเชื่อ SMEs ทวีทรัพย์ (PGS7) วงเงิน 150,000 ล้านบาท และโครงการค้ำประกันสินเชื่อรายย่อยสร้างอาชีพ (MICRO3) วงเงิน 15,000 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันได้รับการตอบรับที่ดีจากธนาคารพันธมิตรในการปล่อยสินเชื่อ โดยมี บสย.ค้ำประกันฯ ผ่าน 2 โครงการดังกล่าวเป็นจำนวนมาก
นางนิภารัตน์ กล่าวว่า ความสำเร็จครั้งนี้ มาจากกลยุทธ์การพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมาย และความต้องการของแต่ละธนาคารที่ชัดเจนขึ้น นอกจากโครงการค้ำประกันสินเชื่อเพื่อรายย่อยสร้างอาชีพ ที่มุ่งช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ที่วงเงินค้ำประกันไม่เกิน 2 แสนบาท รองรับกลุ่มพ่อค้า แม่ค้า หาบเร่ แผงลอย ให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนแล้ว บสย.ยังมีการแบ่งประเภทการค้ำประกัน จำแนกตามกลุ่มผู้ประกอบการ อาทิ กลุ่มผู้ประกอบการ SMEs ประชารัฐและนโยบายรัฐ ซึ่งร่วมกับธนาคารกรุงไทย, กลุ่มผู้ประกอบการ SMEs นิติบุคคลบัญชีเล่มเดียว, กลุ่ม SMEs รายเล็ก, กลุ่ม SMEs ที่ได้รับสินเชื่อผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ (SFIs) และกลุ่ม SMEs ทั่วไป
"สำหรับช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปีนี้ ได้มอบนโยบายให้ฝ่ายกิจการสาขา และฝ่ายการตลาดและพัฒนาผลิตภัณฑ์ เร่งผลักดันและประสานการทำงานกับเครือข่ายพันธมิตร ในการช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ให้เข้าถึงสินเชื่อในระบบมากขึ้น" นางนิภารัตน์ กล่าว