นายวีระพงษ์ วงศ์แหวน ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (สร.ขสมก.) ได้ยื่นหนังสือถึงผู้บริหาร ขสมก. เกี่ยวกับการพิจารณาแก้ไขปัญหาขององค์การและพนักงาน หลังได้รับการร้องเรียนจากพนักงานขับรถ พนักงานเก็บค่าโดยสารและพนักงานทั่วไปใน 5 เรื่อง 1.เกี่ยวกับการจ่ายค่าตอบแทนกรณีพนักงานเก็บค่าโดยสาร ปฎิบัติหน้าที่โดยฉีกตั๋วคูปองให้ผู้โดยสารที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ แต่ ขสมก.ยังไม่ได้จ่ายค่าตอบแทนหน้าตั๋วใบละ 10 สตางค์ของพนักงานขับรถ (พขร.) และพนักงานเก็บค่าโดยสาร(พกส.) 5 สตางค์
2. ให้ขสมก.ทบทวนการปรับโครงสร้างอัตราเงินเดือนของพนักงานเก็บค่าโดยสาร เริ่มต้นขั้นบรรจุแรกเข้าที่อัตราเงินเดือน 10,150 บาท 3.จ่ายค่าตอบแทนให้พนักงานที่ขึ้นไปปฎิบัติหน้าที่บนรถที่วิ่งเฉพาะกิจในการแก้ไขปัญหาจราจร สาย 145 และ สาย 168 โดยให้ใช้หลักเกณฑ์การจ่ายค่าตอบแทนเช่นเดียวกับการปฎิบัติหน้าที่บนรถเมล์ฟรี และ 4.ให้ ขสมก. เร่งรัดบรรจุอัตราแทนตำแหน่งที่ว่างในส่วนงานฝ่ายเดินรถและฝ่ายสนับสนุนการเดินรถให้เพียงพอ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการให้บริการประชาชน และ 5.ให้จ่ายเบี้ยขยันให้กับพขร.และ พกส.ตามที่เคยปฏิบัติมา
ด้านแหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 7 ส.ค.61 มีมติอนุมัติให้ ขสมก.กู้เงินเพื่อเสริมสภาพคล่องทางการเงิน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 จำนวน 15,374.978 ล้านบาท (ปรับโครงสร้างหนี้โดยการไถ่ถอนพันธบัตรและชำระคืนต้นเงินกู้) และให้กระทรวงการคลังเป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้
เนื่องจาก ขสมก.ประสบปัญหาการขาดสภาพคล่องทางการเงินจากผลประกอบการขาดทุนและไม่ได้รับเงินชดเชยผลการขาดทุนตามจำนวนที่เกิดขึ้นจริง อันเนื่องมาจากการเก็บค่าโดยสารต่ำกว่าต้นทุนที่เป็นจริง และต่ำกว่าอัตราค่าโดยสารที่ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลางมาเป็นเวลานาน เพื่อเป็นการบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางของประชาชน จึงจำเป็นต้องกู้เงินเพื่อเสริมสภาพคล่องเพื่อนำมาใช้จ่ายเป็นค่าเชื้อเพลิง ค่าเหมาซ่อมบำรุง และใช้เป็นเงินสดหมุนเวียนในการดำเนินงาน ทำให้มีสภาพคล่องทางการเงินเพียงพอในการให้บริการขนส่งสาธารณะ ซึ่งเป็นการบริหารจัดการทางการเงิน จำนวน 9,217 ล้านบาท โดยเป็นวงเงินที่จะดำเนินการในปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 (ต.ค.61-ก.ย.62) ทั้งนี้ให้กระทรวงการคลังเป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้ รวมทั้งพิจารณาวิธีการกู้เงิน เงื่อนไข และรายละเอียดต่างๆ ในการกู้เงิน
ล่าสุด สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ได้กำหนดวันให้ ขสมก. เบิกเงินกู้งวดแรก จำนวน 2,841.260 ล้านบาท วันที่ 25 ต.ค.61 เพื่อชำระค่าเชื้อเพลิง ค่าเหมาซ่อม และค่าเสริมสภาพคล่อง ซึ่งตามกระบวนการจัดหาเงินกู้ภายในประเทศให้แก่รัฐวิสาหกิจมีระยะเวลาและขั้นตอนในการจัดส่งหนังสือชี้ชวนไปยังสถาบันการเงินล่วงหน้าก่อนการจัดหาเงินกู้ ประมาณ 7- 15 วันทำการ สำหรับวงเงินกู้เพื่อเสริมสภาพคล่องส่วนที่เหลือ จำนวน 6,365.996 ล้านบาท ซึ่งแบ่งเป็นวงเงินที่บรรจุอยู่ในแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ปี 62 แล้ว จำนวน 2,724.790 ล้านบาท และวงเงินที่ยังไม่ได้บรรจุอยู่ในแผนจำนวน 3,641.210 ล้านบาท โดย สบน.จะนำวงเงินในส่วนที่ยังไม่ได้บรรจุอยู่ในแผนไปปรับปรุงแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ปี 62 ต่อไป
ที่ผ่านมา ขสมก. มีหนี้สินค้างชำระ ณ วันที่ 31 ธ.ค.60 รวม 107,876.731 ล้านบาท จำแนกเป็น หนี้พันธบัตรเงินกู้พร้อมดอกเบี้ย 73,812.876 ล้านบาท หนี้เงินกู้ระยะยาวพร้อมดอกเบี้ย 25,933.744 ล้านบาท หนี้ค่าเชื้อเพลิง 152.834 ล้านบาท หนี้ค่าเหมาซ่อม 242.149 ล้านบาท หนี้กองทุนบำเหน็จพนักงาน 4,513.781 ล้านบาท และหนี้สินอื่น ๆ 3,221, 347 ล้านบาท
"หากไม่สามารถกู้เงินก้อนใหม่ เพื่อเสริมสภาพคล่องได้ทันตามกำหนด จะทำให้ประสบปัญหาในการชำระเงินเดือนพนักงานและการบริหารจัดการเดินรถได้อย่างเพียงพอ และจะทำให้ต้องเสืยค่าปรับผิดนัดชำระในอตราดอกเบี้ยการผิดนัดชำระ ตามสัญญาค่าเชื้อเพลิงประมาณ 7.120% และตามสัญญาค่าเหมาซ่อม ประมาณ 7.374%"แหล่งข่าว กล่าว