ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ตัวเลขจ้างงานสหรัฐอ่อนแอ กดดอลล์อ่อนเทียบยูโร

          ภาวะการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (4 ม.ค.) ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐยังคงอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและเงินเยน หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรที่อ่อนแอเกินคาด ซึ่งทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่กังวลว่าเศรษฐกิจสหรัฐอาจเข้าสู่ภาวะถดถอย และอาจกดดันให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีก
          กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขจ้างงานใหม่นอกภาคการเกษตรเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้นเพียง 18,000 อัตรา ซึ่งเป็นสถิติที่น้อยที่สุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2546 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 70,000 อัตรา
          ขณะที่อัตราว่างงานของสหรัฐในเดือนธ.ค.พุ่งขึ้นแตะระดับ 5% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2548 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ระดับ 4.8%
          สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินยูโรแข็งแกร่งขึ้นแตะระดับ 1.4773 ดอลลาร์ต่อยูโร จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 1.4744 ดอลลาร์ต่อยูโร ขณะที่ดอลลาร์อ่อนตัวลงแตะระดับ 108.45 เยนต่อดอลลาร์ จากระดับ 109.33 เยนต่อดอลลาร์ และร่วงลงแตะระดับ 1.1056 ฟรังซ์สวิสต่อดอลลาร์ จากระดับ 1.1114 ฟรังซ์ต่อดอลลาร์
          ส่วนค่าเงินปอนด์อ่อนตัวลงแตะระดับ 1.9723 ดอลลาร์ต่อปอนด์ จากระดับ 1.9732 ดอลลาร์ต่อปอนด์
          นายโรเบิร์ต บรูสก้า นักวิเคราะห์จากบริษัทแฟค แอนด์ อ็อพพิเนียน ในกรุงนิวยอร์กกล่าวว่า "นักลงทุนวิตกกังวลว่าเศรษฐกิจสหรัฐอาจเข้าสู่ภาวะถดถอยหลังจากอัตราว่างงานที่พุ่งขึ้นเกินคาด ซึ่งข้อมูลดังกล่าวส่งผลให้ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กดิ่งลงกว่า 250 จุดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา และสนับสนุนกระแสคาดการณ์ที่ว่าเฟดอาจลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในการประชุมครั้งหน้า"
          "และการที่ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวดิ่งลงกว่า 4% เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ทำให้นักลงทุนขาดความเชื่อมั่นและลดการทำ carry trade ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่นักลงทุนกู้ยืมสกุลเงินที่ให้อัตราผลตอบแทนต่ำ และไปซื้อสกุลเงินที่ให้อัตราผลตอบแทนสูงกว่า" นายบรูสก้ากล่าว