มาเลเซียตั้งเป้าดึงดูดนักท่องเที่ยวกระเป๋าหนักให้ได้ 21.5 ล้านคนปีนี้

          การท่องเที่ยวมาเลเซียพยายามทุกวิถีทางที่จะกระตุ้นนักท่องเที่ยวที่มีอำนาจในการใช้จ่ายให้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศเพิ่มขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับการแสดงความคิดเห็นของนายนาจิบ ราซัค รองนายกรัฐมนตรีของมาเลเซียเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาที่ได้กระตุ้นให้การท่องเที่ยวให้ความสำคัญกับนักท่องเที่ยวที่มีอำนาจจับจ่ายใช้สอย
          ทั้งนี้ มาเลเซียตั้งเป้าดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางเข้ามาในประเทศ 21.5 ล้านคนในปีนี้ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่ร่ำรวยและอยู่ไกลทั้งจากประเทศอาหรับและประเทศเอเชียตะวันออก และคาดว่าจะมีรายได้จากการท่องเที่ยว 5.0 หมื่นล้านริงกิต (1.47 หมื่นล้านดอลลาร์)
          แผนการดังกล่าวต่อยอดมาจากแคมเปญ "Visit Malaysia Year 2007" ซึ่งการท่องเที่ยวมาเลเซียคาดการณ์ว่ามีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในประเทศ 20.7 ล้านคนในปี 2550 และมีรายได้ทั้งสิ้น 4.57 หมื่นล้านริงกิต (1.34 หมื่นล้านดอลลาร์) 
          โดนัลด์ ลิม เซียง ไช รัฐมนตรีช่วยกระทรวงท่องเที่ยวกล่าวหลังจากเปิดนิทรรศการภาพวาดและจิตรกรรมจีนว่า นักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพหรือนักท่องเที่ยวที่มีอำนาจในการใช้จ่ายสูงนั้น จะทำให้มาเลเซียมีรายได้มหาศาล เพราะนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้จะใช้จ่ายมากกว่านักท่องเที่ยวทั่วไปถึง 2 เท่า
          โดยปกติแล้วนักท่องเที่ยวมักจะเดินทางเข้ามาในมาเลเซียเป็นเวลา 6 วัน 7 คืน และใช้จ่าย 2,300 ริงกิต (676 ดอลลาร์) ต่อ 1 ครั้ง แต่นักท่องเที่ยวกระเป๋าหนักจะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเฉลี่ย 8 คืน และใช้จ่ายประมาณ 4,000-5,000 ริงกิต (1,176 ดอลลาร์)
          "หากพวกเขามีเงินท่องเที่ยวในประเทศที่อยู่ไกล พวกเขาก็จะสามารถใช้จ่ายได้อย่างเต็มที่ ซึ่งนั่นก็เป็นไปตามที่เราต้องการ" นายลิมกล่าวกับผู้สื่อข่าวของนิวสเตรทส์ ไทมส์
          ทั้งนี้ กลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีอำนาจในการใช้จ่ายสูงส่วนใหญ่จะมาจากเกาหลีใต้ ทางตะวันออกของจีน (อาทิ เซี่ยงไฮ้ กวางโจว และหางโจว) รวมถึงบรรดานักกอล์ฟและผู้เข้าร่วมประชุม ทริปการท่องเที่ยว และผู้เข้าร่วมงานแสดงหรือนิทรรศการต่างๆ สำนักข่าวซินหัวรายงาน