นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 32.95 บาท/ดอลลาร์ จาก เย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 32.89/93 บาท/ดอลลาร์
"เช้านี้บาทอ่อนเป็นไปตามทิศทางค่าเงินยูโรที่เบรก 1.14 ดอลลาร์/ยูโรลงมาจากเผชิญแรงเทขายจากประเด็นหนี้ อิตาลี และผลประชุม ECB ก็ออกมาตามคาดและเพิ่มประเด็นความระมัดระวังเรื่องวินัยการเงินการคลังของอิตาลีเข้าไปด้วย นอก จากนี้ยังมีเรื่องของ Brexit พลอยทำให้เงินสกุลอื่นๆอ่อนค่าเมื่อเทียบดอลลาร์"นักบริหารเงินระบุ
นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.95-33.05 บาท/ดอลลาร์ จับตา Fund Flow และ GDP ไตรมาส 3 ของสหรัฐฯ
THAI BAHT FIX 3M (25 ต.ค.) อยู่ที่ระดับ 1.32806% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 1.39242%
SPOT ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 33.0425 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 112.35 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ 112.14/56 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1370 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ 1.1407/1412 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 32.9230 บาท/
ดอลลาร์
- กองทุนบำเน็จบำนาญ (กบข.) มองหุ้นทรุดแค่ชั่วคราว เห็นเป็นโอกาส พร้อมปรับพอร์ตลุยตลาดทุนเพิ่มขึ้น หลัง
ประเมินเศรษฐกิจไทยยังแกร่ง สั่งตั้ง ESG - Focused Portfolio 1 พันล้านบาท เดินหน้าลงทุน 33 หุ้น ธรรมาภิบาล
- "ปลัดคมนาคม" เผย เตรียมเสนอ ครม.สัญจรเชียงราย อนุมัติ 5 โครงการใหญ่ เดินหน้าแหลมฉบังเฟส 3, ศูนย์
ซ่อม MRO ที่อู่ตะเภา และมอเตอร์เวย์นครปฐม-ชะอำ
- กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (เอ็กซิมแบงก์) หรือธสน.เปิดเผยว่า ขณะนี้
ธนาคารได้ออกผลิตภัณฑ์ทางการเงินเพิ่มเติมอีก 2 ผลิตภัณฑ์เพื่อช่วยเหลือผู้นำเข้าและส่งออกไทยให้รับมือกับปัญหาสงครามการค้า
ระหว่างประเทศ และความผันผวนจากเศรษฐกิจโลกในด้านต่าง ๆ ทั้งจากอัตราแลกเปลี่ยน ความขัดแย้งทางการเมือง ภัย
ธรรมชาติ เพราะประเมินว่าทิศทางการส่งออกช่วงปลายปีนี้จะชะลอตัว รวมถึงปีหน้าก็จะขยายตัวได้ลดลงเหลือ 4.5% จากปีนี้ที่โต
8%
- นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) เปิดเผยว่า สมาคมฯ ต้องการให้รัฐบาลเร่งออกมาตรการยาแรง
เพื่อกู้ตัวเลขนักท่องเที่ยวจากประเทศจีนให้กลับเข้ามาเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการยกเว้นการเก็บค่า
ธรรมเนียมวีซ่าที่ขอรับการตรวจลงตรา ณ ช่องทางอนุญาตของด่านตรวจคนเข้าเมือง หรือวีซ่า ออน อาร์ไรวัล หลังพบตัวเลขนักท่อง
เที่ยวจีนล่าสุดปรับตัวลดลงจนเข้าขั้นวิกฤติ โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสสุดท้ายปีนี้ (ต.ค.-ธ.ค. 61) ที่ลดลงกว่า 300,000-
400,000 คน หรือติดลบ 15% ต่อเดือน และถ้านับเฉพาะกลุ่มที่เป็นกรุ๊ปทัวร์จะติดลบมากถึง 30% คิดเป็นรายได้ที่ต้องสูญเสียไป
ประมาณ 20,000 ล้านบาท
- ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จัดการประชุมนโยบายการเงินเมื่อวานนี้ โดยที่ประชุมมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่ง
เป็นอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ที่ระดับ 0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ พร้อมกับคงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้
กับ ECB ที่ระดับ -0.40% ขณะที่คงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ระดับ 0.25%
- หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวระบุว่า สหรัฐจะยังไม่ทำการเจรจาแก้ไขความขัดแย้งทาง
การค้ากับจีน จนกว่าจีนจะเสนอแผนยุติการขโมยเทคโนโลยีของสหรัฐ
- รองประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คนใหม่ กล่าวสนับสนุนการเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด เนื่องจาก
เศรษฐกิจยังคงมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ขณะที่การจ้างงานมีความแข็งแกร่ง
- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่
ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป เพิ่มขึ้น 0.8% ในเดือนก.ย. โดยได้รับแรงหนุนจากคำสั่งซื้อเครื่องบินและรถยนต์
- สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย
(pending home sales) เพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายเดือน ส่วนกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวน
ชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 5,000 ราย สู่ระดับ 215,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว แต่ยังคงอยู่ใกล้ระดับต่ำ
สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2512 ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 214,000 ราย
- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ เปิดเผยว่า ตัวเลขขาดดุลการค้าของสหรัฐเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 7.60 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนก.
ย. ซึ่งเป็นการขาดดุลเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 4 หลังจากอยู่ที่ระดับ 5.32 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนส.ค.
- สกุลเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (25 ต.
ค.) หลังจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเมื่อวานนี้ ขณะที่ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงิน
หลักๆ หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจหลายรายการ ซึ่งรวมถึงดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home
sales) และยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ที่ยังคงมีการขยายตัวในเดือนก.ย.
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (25 ต.ค.) ท่ามกลางภาวะการซื้อขายที่ซบเซา เนื่องจากตลาด
หุ้นสหรัฐที่ดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งส่งผลให้นักลงทุนเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทน
สูงกว่า เช่นหุ้น
- นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในวันนี้ ซึ่งได้แก่ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ
(GDP) ไตรมาส 3 และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนต.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน