นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม และ นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รมว.พลังงาน ร่วมเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการส่งเสริมการใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B20 สำหรับรถโดยสาร องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) และ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) โดยมี นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท. (PTT) นายประยูร ช่วยแก้ว รองผู้อำนวยการฝ่ายการเดินรถองค์การ รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ และ นายจิรศักดิ์ เยาว์วัชสกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด ร่วมทำพิธีเปิดโครงการฯ
รมว.พลังงาน กล่าวว่า จากสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่มีความผันผวนและมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น กระทรวงพลังงานได้มีการเตรียมความพร้อมรองรับเพื่อไม่ให้ราคาน้ำมันส่งผลกระทบต่อค่าขนส่งสินค้าและค่าครองชีพของประชาชน ในขณะเดียวกันก็เป็นการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมันด้วยจึงมีนโยบายให้จัดจำหน่ายน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B20 โดยจำหน่ายสำหรับรถเฉพาะกลุ่มเท่านั้น คือ กลุ่มรถบรรทุก รถโดยสาร และเรือโดยสาร ซึ่งมีเป้าหมายในการจำหน่ายที่ 15 ล้านลิตรต่อวัน และคาดว่าจะสามารถเพิ่มปริมาณการใช้น้ำมันปาล์มดิบได้มากขึ้นจากเดิม 1.3 ล้านตันต่อปีเป็น 1.7 ล้านตันต่อปี
รมว.คมนาคม กล่าวว่า กระทรวงคมนาคมมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาการให้บริการให้ผู้ใช้บริการรถขนส่งสาธารณะได้รับความสะดวกยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันก็ตระหนักถึงการช่วยเหลือลดภาระของผู้มีรายได้น้อย แก้ไขปัญหาของสังคม จึงยินดีสนับสนุนนโยบายของกระทรวงพลังงานในการใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B20 สำหรับรถโดยสารสาธารณะ โดยนำร่องจากรถโดยสารของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม คือ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพฯ (ขสมก.) จำนวน 5 คัน และ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) จำนวน 3 คัน
การนำร่องโครงการดังกล่าวจะใช้เวลาประมาณ 1 เดือน หากการดำเนินโครงการสัมฤทธิ์ผลก็จะขยายการใช้ให้ครอบคลุมทั้งหมด โดยปัจจุบัน ขสมก.ซึ่งมีรถโดยสารอยู่ประมาณ 3,000-4,000 คัน มีปริมาณการใช้น้ำมันดีเซลอยู่ราว 200,000 ลิตร/วัน ส่วนรถ บขส.มีปริมาณการใช้น้ำมันดีเซลอยู่ที่ 75,000 ลิตรต่อวัน จากจำนวนรถที่มีอยู่ประมาณ 500 คัน ซึ่งก็เชื่อว่าจะช่วยให้เกิดการใช้ B20 ได้เพิ่มขึ้น และจะส่งผลดีต่อราคาผลผลิตปาล์มน้ำมันและรายได้ของเกษตรที่ดีขึ้นด้วย
สำหรับการทดลองใช้น้ำมัน B20 กับรถบรรทุกขนาดใหญ่ในช่วงที่ผ่านมานั้นก็ไม่ได้เป็นปัญหาแต่อย่างใด แต่ยังช่วยลดมลภาวะด้วย รวมถึงการทดลองใช้น้ำมัน B10 สำหรับการเดินรถไฟของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ในเส้นทางสายบ้านแหลม-แม่กลอง ก็ไม่ได้มีปัญหาแต่อย่างใด และรฟท.ก็อยู่ระหว่างเตรียมขยายเส้นทางเดินรถไฟสำหรับการใช้น้ำมัน B10 เพิ่มเติมอีก 1 เส้นทาง และจะขยายการใช้น้ำมัน B10 เป็น B20 ในอนาคตด้วย
ด้านรองผู้อำนวยการฝ่ายการเดินรถองค์การ รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการ ขสมก.กล่าวว่า จะทำการทดลองในรถโดยสารธรรมดาสาย 145 อู่เมกาบางนา ถึง อู่หมอชิต 2 จำนวน 5 คัน ประมาณการใช้น้ำมันอยู่ที่ 400 ลิตรต่อวัน หรือ 12,000 ลิตรต่อเดือน และจะมีรถคู่เทียบในรุ่นเดียวกันอีก 5 คัน เพื่อตรวจสอบประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องยนต์ รวมถึงผลกระทบที่มีต่อเครื่องยนต์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม และด้านอื่นๆ ด้วย โดยพร้อมขยายการใช้งานในรถของ ขสมก.ให้ครอบคลุมต่อไป
ส่วนกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า บขส.จัดเตรียมรถโดยสารประจำทางของ บขส.จำนวน 3 คัน ในเส้นทาง กรุงเทพฯ-กำแพงเพชร กรุงเทพฯ-บุรีรัมย์ และ กรุงเทพฯ-สระบุรี ซึ่งมีปริมาณการใช้น้ำมันรวมอยู่ที่ 19,500 ลิตรต่อเดือน โดย บขส.ได้จัดเตรียมจุดตั้งถังน้ำมันที่สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร) ถนนกำแพงเพชร 2 และจะเข้าร่วมโครงการทดสอบอย่างเป็นทางการเป็นระยะเวลา 1 ปี นับตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม ศกนี้
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท. (PTT) กล่าวในตอนท้ายว่า ปตท.ได้รับการสนับสนุนจากระทรวงการคลัง และกองทุนน้ำมันอุดหนุนส่วนต่าง ทำให้มีส่วนลดราคาน้ำมันดีเซลเกรดพิเศษ B20 เป็นลิตรละ 3 บาท เพื่อลดผลกระทบต่อราคาค่าโดยสาร ค่าบริการขนส่งสินค้า และค่าครองชีพของประชาชน นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยสร้างเสถียรภาพทางราคาของปาล์มน้ำมัน ถือเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรปาล์มน้ำมัน และยังสามารถลดมลภาวะทางอากาศได้อีกด้วย