(เพิ่มเติม) รมว.พลังงาน เผย กบง.วางเป้าราคาแก๊สโซฮอล์ 95-ดีเซลไม่เกิน 30 บาท/ลิตร พร้อมรักษาสมดุลกองทุนน้ำมันฯ

ข่าวเศรษฐกิจ Friday October 26, 2018 16:22 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รมว.พลังงาน เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) วันนี้ รับทราบถึงสถานการณ์ราคาน้ำมันที่ยังผันผวน แต่ก็เริ่มผ่อนคลายลงหลังราคาน้ำมันดิบดูไบ ลดลงมาอยู่ที่ราว 75-76 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล จากเดิมที่ 85 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ทำให้ราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศลดลงมาราว 2 บาท/ลิตร ในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดย กบง. จะรักษาระดับราคาน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 และดีเซล ให้อยู่ระดับไม่เกิน 30 บาท/ลิตร

"วันนี้กบง.ได้รับทราบสถานการณ์ราคาน้ำมัน ยังรักษาระดับเสถียรภาพราคาแก๊สโซฮอล์ 95 E10 และดีเซล รวมถึงจะเพิ่มการรักษาสมดุลของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ที่ปัจจุบันฐานะกองทุนอยู่ที่ 25,000 ล้านบาท ก็จะมีทั้งเก็บเข้าและชดเชยออกมา เพื่อรักษาเสถียรภาพราคาให้อยู่ในระดับไม่เกิน 30 บาท ทั้งแก๊สโซฮอล์ 95 E10 และในส่วนของดีเซลด้วย"นายศิริ กล่าว

นายศิริ กล่าวว่า ปัจจุบันกองทุนน้ำมันฯยังไม่ได้ปรับเปลี่ยนการชดเชย หรือเก็บเพิ่มขึ้นสำหรับการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯแต่อย่างใด โดยยังคงชดเชยให้สำหรับน้ำมันดีเซลในระดับ 60 สตางค์/ลิตร แต่ในอนาคตหากราคาน้ำมันดิบโลกอ่อนตัวลงอีกก็อาจจะลดการชดเชยลง หรือเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯเพิ่ม เพื่อรักษาเสถียรภาพกองทุนน้ำมันฯ เตรียมไว้ช่วยลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชนในกรณีฉุกเฉิน

ทั้งนี้ ที่ประชุม กบง.วันนี้มีมติกำหนดกรอบการเรียกเก็บเงินกองทุนน้ำมันฯสำหรับแก๊สโซฮอล์ 95 อัตราไม่เกิน 1 บาท/ลิตรในช่วงภาวะน้ำมันขาลง ทำให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) สามารถบริหารจัดการปรับอัตราเงินนำส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ สำหรับแก๊สโซฮอล์ 95 ได้เอง โดยไม่ต้องนำเรื่องขออนุมัติจาก กบง. รวมถึงยังได้ปรับลดกรอบการชดเชยราคาน้ำมันดีเซลของเงินกองทุนน้ำมันฯจากเดิมไม่เกิน 1.50 บาท/ลิตร เป็นไม่เกิน 1 บาท/ลิตร เพื่อลดภาระของกองทุนน้ำมันฯในสถานการณ์ปัจจุบัน

ส่วนอัตราการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯสำหรับน้ำมันประเภทอื่น อย่างน้ำมันเบนซิน แก๊สโซฮอล์ 91 ,E20,E85 ให้พิจารณาปรับได้ตามความเหมาะสมโดยคำนึงถึงค่าการตลาดและส่วนต่างราคาขายปลีกน้ำมัน

ปัจจุบันกองทุนน้ำมันฯ จัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันสำหรับเบนซิน อัตรา 6.68 บาท/ลิตร, แก๊สโซฮอลล์ 95 อัตรา 0.72 บาท/ลิตร , แก๊สโซฮอล์ 91 อัตรา 0.72 บาท/ลิตร ขณะที่ชดเชย E20 อัตรา 2.18 บาท/ลิตร ,ชดเชย E85 อัตรา 7.78 บาท/ลิตร ,ชดเชย ดีเซล 0.60 บาท/ลิตร ,ชดเชย B20 อัตรา 3.1 บาท/ลิตร และชดเชย ก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) อัตรา 6.8597 บาท/กิโลกรัม

สำหรับสถานะกองทุนน้ำมันฯ ณ วันที่ 25 ต.ค.61 ฐานะสุทธิ 23,741 ล้านบาท แยกเป็น บัญชีน้ำมัน 28,359 ล้านบาท และบัญชี LPG ติดลบ 4,618 ล้านบาท จากการประมาณการกองทุนน้ำมันฯมีรายจ่ายสุทธิ 1,702 ล้านบาท/เดือน

นอกจากนี้ ที่ประชุม กบง.ยังได้พิจารณาการกำหนดคุณสมบัติของน้ำมันดีเซล จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนผสมน้ำมันไบโอดีเซล (B100) ในน้ำมันดีเซล 7% หรือ B7 ซึ่งมีคุณลักษณะ (spec) กว้างในระดับผสม B100 สัดส่วน 6.5-7% ในน้ำมันดีเซล ก็จะให้กำหนด spec แคบลงเป็นช่วง 6.8-6.9% หรือไม่เกิน 7% คาดว่าจะเริ่มใน 1-2 วันนี้ หลังจากสมาคมยานยนต์ตอบรับกลับมา โดยเชื่อว่าจะช่วยดูดซับปริมาณน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) ได้ทันทีราว 5-8 หมื่นตัน/ปี

นอกจากนี้ นโยบายของกระทรวงพลังงานที่สนับสนุนการใช้ B20 ซึ่งจะมีส่วนผสม B100 สัดส่วน 20% ในน้ำมันดีเซลสำหรับรถบรรทุกขนาดใหญ่ เรือโดยสารสาธารณะ รถ บขส.และรถโดยสารประจำทาง ขสมก. ด้วยการให้ราคาส่วนลด 3 บาท/ลิตร จากราคาน้ำมัน B7 นั้น ก็จะทำให้ช่วยลดสต็อกส่วนเกินของน้ำมันปาล์มดิบที่มีอยู่ 3-4 แสนตัน/ปีได้หมดไป

ล่าสุด บมจ.ปตท.ร่วมมือกับองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) และบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) นำร่องใช้ B20 ในรถโดยสารสาธารณะ จำนวน 5 คันสำหรับรถโดยสาร ขสมก. และ 3 คันสำหรับรถโดยสาร บขส. เป็นเวลา 1 เดือน ซึ่งหากสำฤทธิ์ผลก็จะใช้สำหรับรถโดยสารขสมก.และรถโดยสาร บขส.ที่มีอยู่ทั้งหมด ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้ภาพรวมปริมาณการใช้ B20 เพิ่มเป็น 20 ล้านลิตร/เดือนจากระดับ 10 ล้านลิตร/เดือนในขณะนี้

นอกจากนี้ จะขยายความร่วมมือการใช้ B20 สำหรับการเดินรถไฟของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ในอนาคต หลังจากการทดลองใช้ B10 สำหรับเส้นทางสายบ้านแหลม-แม่กลอง สามารถใช้การได้ดีไม่ได้สร้างปัญหาแต่อย่างใด

นายศิริ กล่าวว่า การเพิ่มปริมาณการใช้ B100 มากขึ้นจะเป็นการช่วยดูดซับน้ำมันปาล์มดิบส่วนเกินจากปัจจุบันที่ไทยมีการผลิตอยู่ 2.5 ล้านตัน/ปี โดยเป็นการใช้สำหรับบริโภคราว 9 แสนตัน และใช้ในภาคพลังงาน 1.3 ล้านตัน/ปี โดยการดูดซับปริมาณน้ำมันปาล์มดิบดังกล่าว ก็จะช่วยพยุงราคาผลปาล์มน้ำมันให้ดีขึ้นด้วย จากที่อยู่ในระดับต่ำขณะนี้ ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการลดการใช้น้ำมันปาล์มดิบของกลุ่มสหภาพยุโรป (อียู) ทั้งในส่วนของการบริโภคเป็นอาหารและการผลิตไบโอดีเซล


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ