นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า หลังจากได้ทำ MOU กับสภาเกษตรกรแห่งชาติ เพื่อดำเนินโครงการพัฒนาศักยภาพการผลิต แปรรูป และหาตลาดให้กับสินค้าเกษตรไทย โดยมีสมุนไพรไทยเป็นหนึ่งในรายการสินค้าเกษตรที่สภาเกษตรกรแห่งชาติเลือกเป็นสินค้าที่ต้องการให้กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศจัดหาผู้เชี่ยวชาญมาให้ความรู้ด้านการพัฒนาศักยภาพการผลิตและเพิ่มโอกาสในการเข้าสู่ตลาดต่างประเทศ กรมเจรจาฯ จึงได้หารือกับมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย เพื่อหาความเป็นไปได้ และโอกาสในการร่วมมือกันพัฒนาสมุนไพรไทยสู่สากล เนื่องจากมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงมีศูนย์นวัตกรรมสมุนไพรครบวงจรจึงมีความพร้อมทั้งในด้านอาจารย์ นักวิจัย อุปกรณ์ และเครื่องมือ โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับคุณภาพและมาตรฐานการผลิตสมุนไพรไทยให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่ส่งออกวัตถุดิบสมุนไพรและผลิตภัณฑ์สมุนไพรชั้นนำของภูมิภาคอาเซียน
อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า จากการหารือกับนายวันชัย ศิริชนะ อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง เรื่องโอกาสในการพัฒนาสมุนไพรไทยสู่สากล และได้เยี่ยมชมศูนย์นวัตกรรมสมุนไพรของมหาวิทยาลัยฯ เมื่อวานนี้ (28 ต.ค.61) มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงพร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับกรมเจรจาฯ ในการลงพื้นที่ให้ความรู้แก่เกษตรกรในเครือข่ายของสภาเกษตรกรแห่งชาติ ทั้งที่ปลูกเพื่อเป็นวัตถุดิบในการผลิตอาหาร ยาสมุนไพร เครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์สปา ให้ได้คุณภาพและมาตรฐานระดับสากล ซึ่งนอกจากจะช่วยสร้างอาชีพและเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรจากการเพาะปลูกพืชสมุนไพรอย่างยั่งยืนแล้ว ยังช่วยหาตลาดและจับคู่เกษตรกรกับผู้ที่ประสงค์จะรับซื้อวัตถุดิบสมุนไพรที่ได้มาตรฐาน และนำไปเป็นวัตถุดิบในการผลิตสินค้าแปรรูปอื่นๆ อีกด้วย
โดยเบื้องต้น กรมเจรจาฯ ได้หารือกับสภาเกษตรกรแห่งชาติไว้ว่าจะลงพื้นที่ถ่ายทอดองค์ความรู้เรื่องการปลูกพืชสมุนไพร การทำตลาด และการส่งออกสมุนไพรสู่ตลาดโลก ให้กับเกษตรกรในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง เป็นต้น ขณะเดียวกันกระทรวงพาณิชย์จะแนะนำเรื่องการหาตลาดให้กับผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่เกิดจากการวิจัยและพัฒนาของมหาวิทยาลัยด้วย ซึ่งปัจจุบันสมุนไพรของไทยที่นิยมใช้ในประเทศ ได้แก่ กระชายดำ ไพล ขมิ้น ฟ้าทะลายโจร สำหรับไพลและขมิ้นชันยังเป็นที่นิยมใช้ในต่างประเทศด้วย