ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 33.28 แนวโน้มอ่อนค่าจากแรงซื้อดอลล์ มองกรอบวันนี้ 33.20-33.35 จับตาตัวเลขศก.สำคัญ

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday October 31, 2018 09:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 33.28 บาท/ดอลลาร์ จากช่วง เย็นวานนี้อยู่ที่ระดับ 33.24/25 บาท/ดอลลาร์

"เงินบาทยังมีโอกาสอ่อนค่าต่อเนื่องจากนักลงทุนต่างชาติยังเทขายหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ยังมีแรงซื้อดอลลาร์อย่าง ต่อเนื่อง" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน คาดว่า เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 33.20 - 33.35 บาท/ดอลลาร์

จับตาการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ), ตัวเลขการจ้างงานของเอกชนสหรัฐฯ, ตัวเลขเงินเฟ้อไทย, ISM ภาค การผลิตของสหรัฐฯ การประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ

THAI BAHT FIX 3M (30 ต.ค.) อยู่ที่ระดับ 1.17489% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 1.26746%

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 113.22 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 112.79/82 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1348 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 1.1375/1379 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 33.2700 บาท/
ดอลลาร์
  • นักวิเคราะห์ห่วงเงินบาท ผันผวนหนัก เผย 1 เดือนอ่อนค่าสุดในภูมิภาค ขณะ "หยวน" ทุบสถิติร่วงสุดรอบ 10 ปี
ผวาสงครามการค้าลาม แนะจับตาทุนนอก ส่อไหลออกไทยหลังผิดหวังตัวเลขเศรษฐกิจ ด้าน "สแตนชาร์ด" ห่วง "ท่องเที่ยว-ส่ง
ออก" วูบ ฉุดยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดลดลง กระทบความน่าสนใจในมุมมองต่างชาติ
เงินบาทอ่อนสุดในภูมิภาคทุบสถิติรอบ 2 เดือนครึ่ง ซ้ำสหรัฐ เตรียมรีดภาษีจีนเพิ่ม กดค่าเงินตลาดเกิดใหม่อ่อนลง
  • ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ฯ ชี้ตลาดหุ้นทั่วโลกผันผวนแรง แต่ตลาดหุ้นไทย ถือว่าปรับตัวลดลงน้อยกว่าตลาดหุ้นเกิดใหม่
เหตุเศรษฐกิจไทย กำไรบริษัทจดทะเบียนเติบโตแข็งแกร่ง ชี้จังหวะดีสะสมหุ้นราคาถูก ด้านโรงพยาบาลพระรามเก้าเทรดวันแรก
ราคาปิดตลาดเท่าราคาจองผู้บริหารลั่นดินหน้าขยายธุรกิจหวังดันผลประกอบการเติบโตยั่งยืน
  • แบงก์กรุงศรี เผยลูกค้ายอดส่งออกหด กระทบสินเชื่อเทรดไฟแนนซ์ต่ำแผน แต่ภาพรวม 9 เดือน ทะลุเป้าทั้งปีกว่าไป
แล้ว
  • ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดชี้อานิสงส์เลือกตั้ง-เศรษฐกิจไทยแกร่ง เพิ่มโอกาสปี'62 ประเทศไทยได้ปรับเรตติ้ง
ประเทศเป็น A ถือเป็นครั้งแรกก่อนวิกฤต ต้มยำกุ้งปี'40 คาดจีดีพีปีนี้โต 4.3% เหตุกังวลนักท่องเที่ยวจีนลด จี้รัฐแก้ไขด่วน
  • ที่ประชุม ครม.สัญจร จ.เชียงราย ได้อนุมัติโครงการลงทุนภายใต้โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี)
4 โครงการ คือ โครงการศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานอู่ตะเภา, โครงการสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก, โครงการ
พัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 และโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 ซึ่งถ้ารวมกับโครงการรถไฟความเร็ว
สูงเชื่อมต่อ 3 สนามบิน ที่ผ่านการเห็นชอบโครงการจาก ครม. ไปแล้ว จะทำให้โครงการลงทุนหลักของอีอีซีครบ 5 โครงการ คิด
เป็นมูลค่า 6.5 แสนล้านบาท โดยคาดว่า ภายในเดือน ก.พ. 62 จะได้ตัวผู้เข้าร่วมลงทุนครบทั้งหมด
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ลดวงเงินการออกพันธบัตร ธปท.ประจำเดือน พ.ย.61 ลงจากยอดการออก
พันธบัตรในเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา โดยจากยอดในเดือน ต.ค.ที่มีการออกพันธบัตร ธปท.ทั้งสิ้น 470,000 ล้านบาท ลดลงเหลือ
345,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นมูลค่าพันธบัตรที่ลดลงทั้งสิ้น 125,000 ล้านบาท และเป็นการลดลงของพันธบัตร ธปท.อายุ 6 เดือน
เป็นหลัก เพื่อเป็นการปรับความสมดุลของเงินทุนเคลื่อนย้าย
  • สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า การที่อังกฤษแยกตัว
จากสหภาพยุโรป (Brexit) โดยไม่มีการทำข้อตกลงใดๆ มีแนวโน้มที่จะส่งผลให้เศรษฐกิจอังกฤษเข้าสู่ภาวะถดถอย
  • สกุลเงินหยวนของจีนยังคงอ่อนตัวลงต่อเนื่อง โดยแตะระดับต่ำสุดในรอบ 10 ปีเมื่อวานนี้ หลังจากที่ธนาคารกลางจีน
ได้ปรับลดอัตราอ้างอิงรายวันลง รวมทั้งความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐที่อาจจะลุกลามไปมากกว่านี้
  • ผลสำรวจของ Conference Board ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐดีดตัวสู่ระดับ 137.9 ในเดือนต.
ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2543 ปี จากระดับ 135.3 ในเดือนก.ย. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ
136.0 โดยดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐได้รับแรงหนุนจากเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง และการขยายตัวของการจ้างงาน ซึ่งจะเป็น
ปัจจัยหนุนการใช้จ่ายของผู้บริโภค
  • ผลสำรวจของเอสแอนด์พี คอร์โลจิก เคส ชิลเลอร์ระบุว่า ดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐเพิ่มขึ้น 5.8% ในเดือน
ส.ค. เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว แต่ชะลอตัวลงจากระดับ 6.0% ของเดือนก.ค.
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่า เขาคิดว่าสหรัฐจะสามารถทำข้อตกลงทางการค้าครั้งใหญ่กับจีน แต่เขาก็เตือน
ว่า สหรัฐฯพร้อมที่จะเรียกเก็บภาษีอีกหลายแสนล้านดอลลาร์ต่อสินค้าจีน หากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกับจีน
  • ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (30 ต.
ค.) ขานรับรายงานที่ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนต.ค.ของสหรัฐพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 18 ปี เนื่องจากผู้บริโภคมีมุม
มองที่เป็นบวกต่อภาวะเศรษฐกิจและการจ้างงานภายในประเทศ
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (30 ต.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากดอลลาร์ที่แข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงิน
หลักๆ นอกจากนี้ นักลงทุนยังลดการถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นสหรัฐพุ่งขึ้นกว่า 400
จุดเมื่อคืนนี้
  • นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชน

เดือนต.ค.จาก ADP, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนต.ค.จากมา

ร์กิต, ดัชนีภาคการผลิตเดือนต.ค. จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM), ดุลการค้าเดือนก.ย., ตัวเลขจ้างงานนอกภาค

เกษตรเดือนต.ค. และยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนก.ย.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ