นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รมช.คลัง เปิดเผยว่า ได้สั่งให้กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) เร่งเพิ่มช่องทางให้แรงงานนอกระบบที่มีอาชีพอิสระจำนวน 21 ล้านคน เข้าถึงการเป็นสมาชิกของ กอช.ได้มากขึ้น ทั้งช่องทางผ่านเทคโนโลยี เช่น แอพพลิเคชั่น รวมถึงการลงพื้นที่ให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายโดยตรง เพื่อให้ยอดสมาชิกเพิ่มมากขึ้นจากในปัจจุบันที่มีอยู่เกือบ 6 แสนราย เพราะถือเป็นกองทุนที่ดีที่รัฐบาลช่วยสมทบ และประกันผลตอบแทนขั้นต่ำเพื่อให้มีรายได้เพียงพอหลังเกษียณอายุ แต่ยอมรับว่าการทำให้คนออมโดยไม่บังคับเป็นเรื่องยาก
นอกจากนี้ ยังได้ให้ กอช. สำรวจแรงงานนอกระบบ 21 ล้านคน ว่าเป็นผู้ป่วย คนชรา และเด็กอายุที่ต่ำกว่า 15 ปีจำนวนเท่าไร เพื่อจะได้รู้เป้าหมายที่แท้จริงของผู้ที่จะให้มาเป็นสมาชิก กอช. ในอนาคต เพราะหากดูตัวเลขแรงงานนอกระบบในปัจจุบันทำให้รู้ว่าคนที่เป็นสมาชิก กอช.ยังมีน้อยมาก
ด้านน.ส.จารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) เปิดเผยว่า ภายในสิ้นปี 2561 กองทุนฯ จะหาสมาชิกให้ได้ 7 แสนราย และในปี 2562 จะหาสมาชิกให้ได้ 1 ล้านราย โดยจะลงพื้นที่ประสานงานกับกระทรวงมหาดไทย กองทุนหมู่บ้าน ตลอดจนโรงเรียน และมหาวิทยาลัยต่างๆ เพื่อเข้าไปประชาสัมพันธ์กับกลุ่มเป้าหมายโดยตรงให้เข้ามาเป็นสมาชิก กอช. มากขึ้น
สำหรับผู้มีรายได้น้อยที่ลงทะเบียนรับสวัสดิการจากรัฐ 11.4 ล้านคน พบว่าเป็นสมาชิก กอช.อยู่แล้ว 1.7 แสนราย และมีอีก 6 ล้านราย มีคุณสมบัติแต่ยังไม่ได้เป็นสมาชิก ซึ่ง กอช. ได้ส่งข้อความไปถึงสมาชิกดังกล่าวทั้งหมดให้มาสมัครเป็นสมาชิก กอช. เนื่องจากมาตรการใช้จ่ายผ่านกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ของบัตรสวัสดิการภาครัฐตั้งแต่ 1 พ.ย.61 - 30 เม.ย.62 โดยผู้มีรายได้น้อยจะได้คืนเท่ากับภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% แต่ไม่เกิน 500 บาทต่อเดือน จะมีการคืนเงินจำนวน 1% จากทั้งหมดเข้าบัญชีของผู้มีรายได้น้อยที่สมัครเป็นสมาชิก กอช. โดยคาดว่าในปีแรก ผู้มีรายได้น้อยกลุ่มนี้จะมาสมัครเป็นสมาชิก กอช.ประมาณ 5% หรือราว 3 แสนราย