ร.ต.ต.มนตรี ฤกษ์จำเนียร ผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง (ทลฉ.) รักษาการแทน ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) เปิดเผยว่า กทท.ออกประกาศเชิญชวนเอกชนเข้าร่วมโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 ในวันนี้ และจะเปิดขายเอกสารประมูลได้ในวันที่ 5 พ.ย.61
กทท.กำหนดให้ยื่นข้อเสนอประมูลในวันที่ 14 ม.ค.62 จากนั้นจะใช้เวลาในการพิจารณาข้อเสนอและสรุปผลการพิจารณาช่วงปลายเดือน ก.พ. 62 คาดว่าจะตรวจสอบร่างสัญญาและสามารถลงนามได้ในเดือน มี.ค.62 หลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรเมื่อวันที่ 30 ต.ค.61 ได้อนุมัติโครงการดังกล่าว
ทั้งนี้ ในขั้นตอนรับฟังความคิดเห็นจากภาคเอกชน (Market Sounding) นั้น กทท.ได้เชิญนักลงทุนเข้าร่วมกว่า 100 บริษัท ซึ่งจากการ Market Sounding ครั้งที่ 2 ,3 มีนักลงทุนกว่า 15 บริษัท จาก10 กว่าประเทศ ให้ความสนใจอย่างต่อเนื่อง จึงเชื่อว่านักลงทุนจำนวนมากเข้าร่วมประมูล
ขณะที่ขั้นตอนการจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EHIA) อยู่ระหว่างการทำข้อมูลเพิ่มเติม และคาดว่าคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (กกวล.) จะอนุมัติประมาณอย่างช้าในเดือน ม.ค.62
สำหรับโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังระยะที่ 3 ประกอบด้วย ท่าเทียบเรือตู้สินค้าจำนวน 4 ท่า (ท่าเรือ E1 E2 F1 F2) ความจุ 7 ล้านตู้ต่อปี โดยจะเปิดประมูลพัฒนาท่าเรือ F1 และ F2 ก่อน ซึ่งมีความยาวหน้าท่ารวม 2,000 เมตร รองรับได้ 4 ล้านทีอียูต่อปี ส่วนท่าเรือ E1 และ E2 จะเปิดประมูลหานักลงทุนหลังจากนี้อีก 6-7 ปี
ในส่วนของ กทท.จะต้องลงทุนโครงการสร้างพื้นฐานของเฟส 3 ทั้งหมด เช่น ก่อสร้างท่าเทียบเรือมาตรฐาน การขุดลอกร่องน้ำ ถนน ราง ระบบ ไฟฟ้า ประปา ประมาณ 5 หมื่นล้านบาท โดยในช่วง 2 ปีแรกจะเร่งพัฒนาในพื้นที่ F ก่อน วงเงินกว่า 2 หมื่นล้านบาท เพื่อเร่งส่งมอบให้เอกชนไปพัฒนาต่อ เพื่อเปิดให้บริการได้ในปี 66-67 ปี
สำหรับปริมาณสินค้าของท่าเรือแหลมฉบังในปี 61 มีประมาณ 8.015 ล้านทีอียู เติบโตจากปีก่อน 4% คาดว่าปี 62 การเติบโตของตู้สินค้าจะอยู่ที่ประมาณ 4-5% ขณะที่ขีดความสามารถในการรองรับตู้สินค้าของท่าเรือแหลมฉบังอยู่ที่ 10.8 ล้านทีอียู ซึ่งใน 2-3 ปีนี้การพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) จะเริ่มส่งผลให้ปริมาณสินค้าของท่าเรือแหลมฉบังเพิ่มอีกมาก