ธนาคารโลกเผยแพร่รายงานอันดับความยากง่ายในการทำธุรกิจ (Doing Business) ของประเทศทั่วโลกประจำปี 62 ในวันนี้ โดยประเทศไทยได้รับการจัดอันดับให้เป็นประเทศที่มีความสะดวกในการเข้าไปประกอบธุรกิจอันดับที่ 27 จากทั้งหมด 190 ประเทศ ด้วยคะแนน Ease of Doing Business Score (EODB) รวมทุกด้าน 78.45 คะแนน เพิ่มขึ้น 1.06 คะแนน แต่อับดับลดลง 1 ขั้นจากอันดับ 26 ในปี 61
นายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) กล่าวว่า คะแนนของประเทศที่ไทนที่เพิ่มขึ้นเป็นผลจากการอำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจที่สำคัญใน 4 ด้าน ได้แก่ ด้านการเริ่มต้นธุรกิจ ด้านการขอใช้ไฟฟ้า ด้านการชำระภาษี และด้านการค้าระหว่างประเทศ
ในครั้งนี้ ธนาคารโลกได้เปลี่ยนหลักเกณฑ์การจัดอันดับความยาก-ง่ายในการประกอบธุรกิจใหม่จากเดิมที่ใช้ระยะห่างจากเป้าหมายที่กำหนด (Distance to Fontier:DTF) มาเป็นการวัดแบบ EODB เพื่อให้การคำนวณสะท้อนความเป็นจริงมากที่สุด โดยวิธีนี้ประเทศที่ดีที่สุดในแต่ละตัวขี้วัด จะได้คะแนนเต็ม 100 ประเทศที่ทำได้ไม่ดีที่สุดในตัวชี้วัดนั้นะได้คะแนน 0 คะแนน ส่วนประเทศอื่นจะได้คะแนนตามผลงานที่ทำได้เมื่อเทียบกับ Banchmark ดังกล่าว
ทั้งนี้ ไทยมีผลคะแนนรายด้านดีขึ้นถึง 7 ด้าน ได้แก่ ด้านการเริ่มต้นธุรกืจ ด้านการขอใช้ไฟฟ้า ด้านการจดทะเบียนทรัพย์สิน ด้านการคุ้มครองผู้ลงทุนเสียงข้างน้อย ด้านการชำระภาษี ด้านการค้าระหว่างประเทศ และด้านการแก้ปัญหาการล้มละลาย โดยการขอใช้ไฟฟ้าเป็นด้านที่พัฒนาได้โดดเด่นที่สุด จนติดอันดับที่ 6 ของโลก ซึ่งสะท้อนความพยายามอย่างต่อเนื่องในการปฏิรูปบริการภาครัฐและการผลักดันของรัฐบาลในการปรับปรุงประสิทธิภาพการบริการภาครัฐและการปฏิรูปเพื่อรองรับการปรับเปลี่ยนตามนโยบาย THAILAND 4.0 ส่งผลให้ประเทศไทยมีศักยภาพในการอำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจที่ทัดเทียมกับประเทศชั้นนำของโลก
สำหรับคะแนน EODB Score ที่ได้เป็นการคำนวณเทียบกับประเทศที่มีผลการดำเนินการที่ดีที่สุด ซึ่งจะได้ 100 คะแนน และประเทศไทยด้านการขอใช้ไฟฟ้ามีคะแนนสูงสุดที่ 98.57 คะแนน รองลงมาคือ การขอเริ่มต้นธุรกิจ 92.72 คะแนน การค้าระหว่างประเทศ 84.65 คะแนน การชำระภาษี 77.72 คะแนน การแก้ปัญหาล้มละลาย 76.64 คะแนน การคุ้มครองลงทุนเสียงข้างน้อย 75.00 คะแนน การขออนุญาตก่อสร้าง 71.86 คะแนน การได้รับสินเชื่อ 70 คะแนน การจดทะเบียนทรัพย์สิน 69.47 คะแนน และการบังคับให้เป็นไปตามสัญญา 67.91 คะแนน
"Doing Business 2019 พบว่า ประเทศต่างๆ ทั่วโลกได้ทำการปฏิรูปกฎระเบียบมากเป็นประวัติการณ์ตลอดปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิกได้ทำการปฏิรูปด้านการขอใช้ไฟฟ้ามากที่สุด ซึ่งประเทศไทยก็เป็นหนึ่งประเทศที่มีการดำเนินในเรื่องนี้ได้ดีที่สุดโดยได้รับคะแนนถึง 98.57 คะแนนใกล้เคียงกับแนวปฏิบัติที่ดีเลิศของโลก นอกจากนี้รายงานยังพบว่าตัวชี้วัดด้านการแก้ไขปัญหาการล้มละลายเป็นประเด็นที่ท้าทายประเทศต่างๆ ทั่วโลกมากที่สุด ซึ่งประเทศไทยได้คะแนนในด้านการแก้ไขปัญหาการล้มละลายเพิ่มขึ้นจาก 75.64 ในปีที่ผ่านมาเป็น 76.64 ในปีนี้"นายปกรณ์กล่าว
อนึ่ง นิวซีแลนด์ครองอันดับ 1 ในรายงาน Doing Business ประจำปีนี้ ตามมาด้วย สิงคโปร์, เดนมาร์ก, ฮ่องกง และเกาหลีใต้ ส่วนสหรัฐอยู่ที่อันดับ 8 ลดลงจากอันดับ 6 ในปีที่แล้ว
สำหรับประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สิงคโปร์ครองอันดับ 2 จากการสำรวจประเทศทั่วโลก ไม่เปลี่ยนแปลงจากปีก่อน, มาเลเซียอยู่ที่อันดับ 15 เพิ่มขึ้น 9 อันดับ, ไทยอันดับ 27 ลดลง 1 อันดับ, บูรไนอันดับ 55 เพิ่มขึ้น 1 อันดับ, เวียดนามอันดับ 69 ลดลง 1 อันดับ, อินโดนีเซียอันดับ 73 ลดลง 1 อันดับ, ฟิลิปปินส์อันดับ 124 ลดลง 11 อันดับ, กัมพูชาอันดับ 138 ลดลง 3 อันดับ, สปป.ลาวอันดับ 154 ลดลง 13 อันดับ และเมียนมาอันดับ 171 ไม่เปลี่ยนแปลง