ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุแม้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะเคลื่อนไหวอยู่ขอบล่างของกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กำหนดไว้ที่ 2.5% +1.5%YoY แต่ส่วนใหญ่เป็นผลของปัจจัยด้านอุปทาน ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่สะท้อนกำลังซื้อของผู้บริโภคภายในประเทศยังอยู่ในระดับต่ำ และเป็นปัจจัยกดดันสำคัญต่อการดำเนินนโยบายการเงินในระยะข้างหน้า ทำให้คาดว่า ธปท.จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในช่วงที่เหลือของปี ซึ่งจะเป็นปัจจัยกดดันการอ่อนค่าของเงินบาทในช่วงที่เหลือของปี
ในระยะต่อไป อัตราเงินเงินเฟ้อพื้นฐานมีแนวโน้มจะยังคงอยู่ในระดับต่ำจากการขยายตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศยังขยายตัวตัวไม่ทั่วถึง โดยเฉพาะแรงงานที่มีรายได้ต่ำ เนื่องจากเป็นกลุ่มที่ยังไม่ได้รับผลประโยชน์จากการขยายตัวของเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมามากนัก โดยการขยายตัวของการใช้จ่ายเพื่อซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคยังคงหดตัว ขณะที่รายได้เกษตรกรนั้นขยายตัวในระดับต่ำจากราคาพืชผลทางการเกษตรที่ตกต่ำเป็นสำคัญ นอกจากนี้ยังมีปัญหาเชิงโครงสร้าง โดยเฉพาะการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุยังเป็นอีกหนึ่งความท้าทายในระยะยาวต่อการเพิ่มขึ้นของอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน
สำหรับอัตราเงินเฟ้อทั่วไปของไทยเดือน ต.ค.61 อยู่ที่ 1.23% YoY ต่ำกว่าตัวเลขในเดือนก่อนหน้าและการคาดการณ์ของตลาดที่ 1.33%YoY โดยมีปัจจัยหลักมาจากราคาอาหารสดที่หดตัว 1.48%YoY โดยเฉพาะราคาผักสดและผลไม้ที่หดตัวลงมากถึง 12.26%YoY และ 3.75%YoY ตามลำดับ ด้านราคาพลังงานเร่งขึ้น 8.11%YoY ใกล้เคียงกับ 8.10%YoY ในเดือนก่อนหน้า
หากพิจารณาตั้งแต่ต้นปีถึงเดือน ต.ค.61 อัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยอยู่ที่ 1.15%YoY และแกว่งตัวอยู่ในขอบล่างของกรอบเงินเฟ้อเป้าหมายที่ ธปท.กำหนดที่ 2.5%+1.5%YoY ด้านอัตราเงินเฟ้อเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าอยู่ที่ 0.06%MoM
ส่วนอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานซึ่งไม่รวมราคาอาหารสดและราคาพลังงานปรับลดลงมาอยู่ที่ 0.75%YoY ต่ำกว่าการคาดการณ์ของตลาดและตัวเลขในเดือน ก.ย.61 ที่ 0.8%YoY ส่งผลให้ค่าเฉลี่ยอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานตั้งแต่ต้นปีถึงเดือน ต.ค.61 ยังคงอยู่ในระดับต่ำที่ 0.72%YoY