พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม, นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รมช.คมนาคม พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และนายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ร่วมกันเปิดอุโมงค์ทางลอดแยกรัชโยธิน ด้านถนนรัชดาภิเษก ให้ประชาชนได้สัญจรอย่างเป็นทางการในวันนี้
สำหรับอุโมงค์ทางลอดบริเวณแยกรัชโยธิน เป็นโครงการเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาจราจรอย่างยั่งยืน โดย คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2556 เห็นชอบให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.)ดำเนินการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต – สะพานใหม่ – คูคต พร้อมทั้งเห็นชอบให้ รฟม. ดำเนินการก่อสร้างอุโมงค์ทางลอดบริเวณแยกรัชโยธินไปในคราวเดียวกัน ซึ่ง รฟม. ได้เร่งรัดดำเนินงานก่อสร้างอุโมงค์ทางลอดบริเวณแยกรัชโยธินให้มีความก้าวหน้าตามแผนงานมาอย่างต่อเนื่อง
โดยการก่อสร้างเป็นอุโมงค์ทางลอดในแนวถนนรัชดาภิเษก ขนาด 4 ช่องจราจร แบ่งเป็นทิศทางฝั่งขาเข้า – ขาออก ทิศทางละ 2 ช่องจราจร ซึ่ง รฟม. ได้นำเทคนิคการก่อสร้างงานใต้ดินที่มีประสิทธิภาพเข้ามาประยุกต์ใช้ เพื่อลดระยะเวลาในการก่อสร้างควบคู่ไปกับการบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจัดการจราจร เพื่อบรรเทาผลกระทบจราจรในระหว่างการก่อสร้าง ทั้งนี้ จากการเร่งรัดการดำเนินงานของ รฟม. ส่งผลให้การก่อสร้างอุโมงค์ทางลอดบริเวณแยกรัชโยธินแล้วเสร็จเร็วกว่าแผนงาน 3 เดือน
และพร้อมเปิดให้ประชาชนใช้สัญจรได้ในปัจจุบัน คาดว่าอุโมงค์ทางลอดบริเวณแยกรัชโยธินจะสามารถรองรับปริมาณรถยนต์เฉลี่ยกว่า 200,000 คันต่อวัน ซึ่งจะช่วยคลี่คลายการจราจรบริเวณแยกรัชโยธิน รวมถึงช่วยระบายปริมาณการจราจรของถนนโดยรอบในบริเวณดังกล่าว
สำหรับการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต – สะพานใหม่ – คูคต ปัจจุบัน (ณ วันที่ 31ตุลาคม 2561) มีความก้าวหน้ารวมร้อยละ 82.49 โดยโครงการฯ มีกำหนดก่อสร้างงานโยธาแล้วเสร็จภายในปี 2562 และ กรุงเทพมหานคร (กทม.) จะเป็นผู้ดำเนินการติดตั้งงานระบบรถไฟฟ้า ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดให้บริการได้ภายในปี 2563
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การเปิดใช้อุโมงค์ทางลอดบริเวณแยกรัชโยธิน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ถือเป็นความก้าวหน้าในการแก้ปัญหาจราจรในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศที่ทุกคนได้เห็นเป็นรูปธรรม โดยอุโมงค์นี้มีความยาว 1,085 เมตร ใช้เวลาดำเนินการ 21 เดือน ซึ่งสามารถเปิดใช้ได้เร็วกว่าแผนงานที่กำหนดไว้ 3 เดือน
"ประชาชนจะได้เห็นว่าที่อดทนรอมากว่า 20 เดือนเกิดประโยชน์อย่างไร ความสำเร็จในการแก้ปัญหานั้น ต้องอาศัยความร่วมมือร่วมใจจากทุกฝ่าย เพราะบางกรณีก็ติดที่ของเอกชน" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พร้อมระบุว่า นอกเหนือจากโครงการนี้แล้ว โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ จำนวน 16 สถานี ระยะทาง 19 กิโลเมตร จะสามารถเปิดให้บริการได้ในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งเร็วกว่าแผนงานที่กำหนดไว้ 4 เดือน