บรรดานักวิเคราะห์จากหลายสำนักของจีนต่างออกมาแสดงความคิดเห็นในทิศทางเดียวกันว่า ธนาคารกลางจีนยังไม่มีแนวโน้มว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในระยะนี้ เนื่องจากคาดว่าอัตราเงินเฟ้อในเดือนธ.ค.จะชะลอตัวลง ซึ่งขณะนี้ทางสำนักงานสถิติยังไม่ได้รายงานตัวเลขดังกล่าวออกมาแต่อย่างใด
นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์เฉินหยิน วานกัว คาดการณ์ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค(CPI) ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดอัตราเงินเฟ้อในเดือนธ.ค.จะขยายตัวขึ้น 6.1% เมื่อเทียบกับระดับที่พุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 11 ปีที่ 6.9% ในเดือนพ.ย.
ขณะที่นักวิเคราะห์จากกัวไท่ จูหนาน ในนครเซี่ยงไฮ้คาดว่า ดัชนี CPI จะอยู่ที่ระดับ 6.3% โดยชี้ว่าตัวเลขดังกล่าวปรับตัวลดลงมาจากระดับสูงในเดือนธ.ค.2549 ซึ่งถีบตัวสูงขึ้นจากระดับ 1.9% ในเดือนก่อนหน้านี้แตะที่ 2.8% อันเป็นผลจากราคาสินค้าที่ปรับตัวสูงขึ้น
ลู่ เซียงเว่ย นักวิเคราะห์จากอินดัสเทรียล แบงก์ คาดการณ์ว่า CPI จะขยายตัวในกรอบ 6.2-7% ซึ่งยังต่ำกว่าระดับที่พุ่งทำสถิติสูงสุดในเดือนก่อนหน้านี้
หลี ฮุยยัง นักวิเคราะห์จากบริษัทเฉินหยิน วานกู กล่าวว่า การใช้มาตรการคุมเข้มทางการเงินของจีนเมื่อปีที่ผ่านมา อาทิ การปรับขึ้นดอกเบี้ยถึง 6 ครั้ง และการเพิ่มเพดานกันสำรองขึ้นอีก 10 ครั้งได้เริ่มส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจบ้างแล้ว ดังนั้นโอกาสที่จีนจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งในเร็วๆนี้จึงเป็นไปได้น้อยมาก
ด้านหลิน เซาฮุย จากบริษัทกัวไท่ จูหนาน กล่าวว่า ธนาคารกลางจีนอาจต้องใช้เวลาอีกประมาณ 2 เดือนเพื่อพิจารณาตัวเลขสถิติใหม่ๆ โดยคาดว่าธนาคารอาจปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--