นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 32.94/98 บาท/ดอลลาร์ ทรงตัว จากเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 32.94 บาท/ดอลลาร์
วันนี้การเคลื่อนไหวของเงินบาทขึ้นอยู่กับผลการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐฯ เป็นสำคัญ ซึ่งหากพรรครีพับลิกันสามารถ ครองเสียงข้างมากได้ ก็มองว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ น่าจะมีโอกาสสดใสมากกว่า
นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.85-33.00 บาท/ดอลลาร์
THAI BAHT FIX 3M (6 พ.ย.) อยู่ที่ระดับ 1.19394% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 1.30175%
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 113.52 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 113.17 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1420 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 1.1405 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 32.9710 บาท/
ดอลลาร์
- ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า ภาพรวมเศรษฐกิจไทยช่วง 2 เดือนที่เหลือปี 2561 ยัง
ขยายตัวได้ต่อเนื่อง จากการที่รัฐบาลพยายามส่งเสริมกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่อาจจะไม่มีปัจจัยอะไรที่น่าตื่นเต้น และมองว่าทิศทาง
เศรษฐกิจปี 2562 อาจชะลอตัวลงและคงสู้ปีนี้ไม่ได้ คาดจีดีพีขยายตัว 4.2%
- บยส.จับมือธนาคารกรุงไทย เปิดโครงการค้ำสินเชื่อเอสเอ็มอีประชารัฐและนโยบายรัฐ ผ่านวงเงิน 1 หมื่นล้าน
บาท หวังลดปัญหารายย่อยขาดสภาพคล่องการเงิน และเข้าถึงแหล่งกู้ยาก พบร้านค้าธงฟ้าแห่ยื่นกู้สูงกว่าธุรกิจอื่น 2 เท่าตัว
- กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยถึงแนวโน้มหนี้เสียเอสเอ็มอีของธนาคารว่า ปัจจุบันธนาคารมีหนี้
เสียเอสเอ็มอีประมาณ 5-6 % ของวงเงินสินเชื่อคงค้างที่มี 3.5 แสนล้านบาท และมองว่าภาพรวมเอ็นพีแอลของเอสเอ็มอียังอยู่ใน
สถานการณ์เปราะบาง ซึ่งธนาคารยังต้องเข้าไปช่วยเหลือลูกค้าในการปรับโครงสร้างหนี้เพื่อให้ลูกค้ากลับมาแข็งแรงจากปัจจุบันที่ยัง
อ่อนแอ ทำให้คาดว่าในสิ้นปีนี้เอ็นพีแอลของเอสเอ็มอีจะไม่ลดลง และยังทรงตัวในระดับเท่าเดิม 5-6%
- อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยหลังประชุมผู้บริหารกระทรวงการคลังว่า การจัดเก็บภาษีของกรมสรรพากรในเดือนแรก
ของปีงบประมาณ 62 ทำได้เกินเป้าหมาย 4.7% หลังจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มทำได้มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ นอกจากนี้ยังได้มีการ
ยืนยันเป้าหมายการจัดเก็บภาษีให้ รมว.คลัง รับทราบว่า ตลอดปีนี้จะเก็บให้ได้ 2 ล้านล้านบาท
- เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (6 พ.ย.)
หลังจากสื่อรายงานว่า สหภาพยุโรป (EU) พร้อมที่จะประนีประนอมประเด็นไอร์แลนด์ เพื่อหวังปลดล็อกข้อตกลงเกี่ยวกับการที่อังกฤษ
แยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ขณะที่ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังการ
ซื้อขายก่อนที่จะรู้ผลการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐ
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (6 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่
ปลอดภัย หลังจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่สอง ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาผลการเลือกตั้งกลางเทอมของ
สหรัฐ
- นักลงทุนจับตาการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐ ซึ่งจะเป็นการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐทั้งสภาจำนวน
435 คน ขณะที่เลือกสมาชิกวุฒิสภาจำนวน 35 คนจากทั้งหมด 100 คน รวมทั้งเลือกผู้ว่าการรัฐ 36 รัฐจากทั้งหมด 50 รัฐ
- นักลงทุนยังจับตาการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 7-8 พ.ย. โดยมีการคาดการณ์ว่าเฟดจะยังคง
ตรึงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ ก่อนที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า ซึ่งจะเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 4 ใน
ปีนี้
- ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีราคาผู้
ผลิต (PPI) เดือนต.ค., ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนพ.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน และสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือน
ก.ย.