นายประยูร ช่วยแก้ว รองผู้อำนวยการฝ่ายการเดินรถองค์การ รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ ขสมก.ได้หารือกับกลุ่มร่วมทำงาน SCN-CHO ที่มี บมจ.ช ทวี (CHO) และบมจ. สแกนอินเตอร์ (SCN) เพื่อทำแผนการตรวจรับรถเมล์ NGV ที่เหลือ ภายหลังที่ศาลปกครองกลางได้มีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งรับคำฟ้องของบริษัท สยาม สแตนดาร์ด เอนเนอจี้ จำกัด (ผู้ฟ้องคดี) ไว้พิจารณา รวมทั้งการดำเนินการต่างๆต่อจากนั้น ตลอดจนมีคำสั่งไม่รับคำฟ้องไว้พิจารณาและให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ
ก่อนหน้านั้น ขสมก.ได้รับมอบรถล็อตแรก 100 คัน เมื่อวันที่ 12 มี.ค. 61 ซึ่งตามแผนจะทยอยส่งมอบในเดือนเม.ย.,พ.ค.และมิ.ย. ครบ 489 คัน โดยกลุ่มร่วมทำงาน SCN-CHO ได้นำรถชุด 2 จำนวน 202 คัน เข้ามาแล้วแต่เนื่องจากคำสั่งศาลทำให้ต้องหยุดกระบวนการไว้ก่อน
หลังจากนี้ ขสมก.จะทยอยนำรถ 202 คันดังกล่าว ออกวิ่งให้บริการประชาชนภายในเดือน ธ.ค.61 หรือรับมอบภายใน 45 วัน เพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้แก่ประชาชน โดยจะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ 100 คัน จะส่งมอบได้ใน 30 วัน เนื่องจากจะต้องตรวจสภาพรถ และระบบต่างๆ ที่จอดทิ้งไว้กว่า 7 เดือน และนำไปจดทะเบียนกับกรมขนส่งทางบก (ขบ.) และจัดทำประกันต่างๆ ส่วน 102 คัน. จะรับมอบหลังจากนั้น 15 วัน
ส่วนที่เหลือ 189 คัน บริษัทจะเร่งกระบวนการผลิตและการประกอบที่โรงงานประเทศจีน โดยคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 90 วันโดยจะส่งมอบได้ครบภายในเดือนก.พ. 62
เมื่อกระบวนการเดินหน้าได้แล้วตามสัญญา ขสมก.เตรียมแผนการชำระค่าตัวรถและค่าซ่อมบำรุงที่ค้าง ตั้งแต่เดือน มี.ค.-ต.ค. 61 ในส่วนของรถ 100 คันที่ได้นำมาวิ่งให้บริการแล้ว ซึ่งราคารถ 3.86 ล้านบาท/คัน ตามเงื่อนไขสัญญาทันที ส่วนที่เหลือ เมื่อบริษัทฯทยอยส่งมอบจะต้องจ่ายค่าตัวรถภายใน 30 วัน ซึ่งได้เตรียมแผนกู้เงินไว้แล้ว พร้อมกันนี้จะมีการพิจารณาขยายระยะเวลาในการรับมอบรถใหม่ จากเดิมที่ต้องส่งมอบครบ 489 คัน นับจาก มี.ค.-มิ.ย.61 โดยจะหารือกรมบัญชีกลางเพื่อให้เป็นไปตามระเบียบและระยะเวลาที่เหมาะสม
ด้านนางพนิดา ทองสุข รองผู้อำนวยการ ขสมก.กล่าวว่า ภายในสัปดาห์หน้า ขสมก.เตรียมจ่ายค่ารถ 100 คันแรกให้กลุ่ม SCN-CHO จำนวน 386.8 ล้านบาท และชำระค่าซ่อมบำรุงตั้งแต่ช่วง มี.ค.-ก.ย.61 จำนวน 16.681 ล้านบาท โดยขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการตั้งเรื่องเบิกจ่าย ขณะที่ค่าซ่อมบำรุงเดือน ต.ค.61 ประมาณ 2.8 ล้านบาทนั้น คาดว่าจะจ่ายได้ในวันที่ 8 ธ.ค.61 หลังจากนี้กระบวนการจ่ายค่าซ่อมบำรุงจะเป็นไปตามสัญญา
ส่วนกรณีที่กลุ่ม SCN-CHO ได้เรียกร้องค่าเสียหายกรณีที่ขสมก.ชำระค่าตัวรถและค่าซ่อมบำรุงล่าช้านั้น ได้เจรจากับบริษัทเบื้องต้นแล้วว่า ความล่าช้าเป็นเหตุที่ควบคุมไม่ได้และไม่ใช่ความผิดของขสมก. ซึ่งบริษัทฯเข้าใจ
ด้านรถที่เหลืออีก 389 คันนั้น ขสมก.ได้เตรียมแผนจัดสรร เพื่อนำไปวิ่งในเส้นทาง ดังนี้ ล็อตที่ 1 จำนวน 202 คัน รับมอบภายในเดือนธ.ค. 61 วิ่งในเส้นทาง เขตการเดินรถที่ 1 จำนวน 100 คัน รวม 9 เส้นทาง เขตการเดินรถที่ 2 จำนวน 32 คัน รวม 4 เส้นทาง เขตการเดินรถที่ 3 จำนวน 70 คัน
สำหรับล็อตที่ 2 อีกจำนวน 187 คัน จะรับมอบรถโดยสารประมาณเดือนก.พ. 62 วิ่งให้บริการ ในเส้นทาง เขตการเดินรถที่ 1 จำนวน 39 คัน รวม 4 เส้นทาง เขตการเดินรถที่ 2 จำนวน 78 คัน เขตการเดินรถที่ 3 จำนวน 40 คัน เขตการเดินรถที่ 5 จำนวน 30 คัน
นายสุรเดช ทวีแสงสกุลไทย กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CHO เปิดเผยว่า ต่อจากนี้ กลุ่มร่วมทำงาน SCN-CHO พร้อมเดินหน้าทยอยส่งมอบรถอีกจำนวน 389 คันที่เหลือ โดย ขสมก. นัดหมายรับรถเมล์ NGV ล็อตถัดไปจำนวน 202 คัน ภายในเดือน ธ.ค.นี้ ส่วนล็อตสุดท้ายจำนวน 187 คันจะรับมอบประมาณเดือน ก.พ.62 รวมทั้งหมดเป็น 489 คัน มูลค่า 1,891 ล้านบาท เพื่อให้ผู้โดยสารรถเมล์ได้มีรถใหม่ใช้ ซึ่งเป็นรถโดยสารปรับอากาศชานต่ำ และมีทางลาดสำหรับเข็นรถวีลแชร์เพื่อรองรับผู้ใช้บริการทุกประเภท ทั้งคนพิการและผู้สูงอายุให้สามารถใช้บริการรถโดยสารได้อย่างสะดวกปลอดภัยที่สุด
"กลุ่มร่วมทำงาน SCN-CHO ซึ่งประกอบด้วย ช ทวี และ สแกน อินเตอร์ ดำเนินงานอย่างสุจริต ตั้งมั่นในคุณภาพการบริหารงานตามหลักบรรษัทภิบาล โปร่งใส ตรวจสอบได้ ทั้งนี้การันตีโดย CHO ได้รับรางวัล CG 5 ดาว ติดกัน 2 ปี และรางวัลด้านความยั่งยืน ต่อเนื่อง 4 ปี มาโดยตลอดตั้งแต่เริ่มเข้าประมูลงานโครงการจัดหารถเมล์ NGV พร้อมซ่อมแซมและบำรุงรักษารถโดยสาร 489 คัน ด้วยความเชื่อมั่นว่าจะเป็นการพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะให้มีประสิทธิภาพมากอย่างขึ้น"นายสุรเดช กล่าว