น.ส.นันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) วันนี้ พิจารณาแนวทางเร่งส่งเสริมการใช้น้ำมันดีเซล B20 เพิ่มเติมเพื่อสร้างแรงจูงใจให้เกิดการใช้เพิ่มขึ้น โดยอนุมัติมาตรการจูงใจระยะสั้น ให้ลดราคาขายปลีก B20 ถูกกว่าราคาน้ำมันดีเซลจากเดิม 3 บาท/ลิตร เป็น 5 บาท/ลิตร เป็นระยะเวลา 3 เดือน เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.61- 28 ก.พ.62 ซึ่งคาดว่าจะใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเข้าไปชดเชยราว 700 ล้านบาท จากปัจจุบันที่เงินกองทุนน้ำมันฯชดเชยอยู่ราว 10 ล้านบาท/เดือน
สำหรับการเพิ่มชดเชยราคา B20 ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการที่รถบรรทุกขนาดใหญ่จะปรับเปลี่ยนมาใช้ B20 แทนน้ำมันดีเซลปกตินั้น จะต้องมีค่าใช้จ่ายในช่วงแรกในการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องและไส้กรองน้ำมันเชื้อเพลิงประมาณ 10,000 บาท/คัน ขณะที่คาดหวังว่าจากมาตรการดังกล่าวจะยังช่วยดูดซับน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) เพิ่มมากขึ้นได้อีกประมาณ 31,303 ตัน ซึ่งจะช่วยเร่งระบายสต็อกน้ำมันปาล์มดิบในตลาดได้มากขึ้นด้วย
ทั้งนี้ การดำเนินการตามมาตรการดังกล่าว คาดการณ์ว่าจะทำให้มีปริมาณการใช้ B20 เพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่มีการใช้อยู่ 3.5 ล้านลิตร/เดือน เป็น 20 ล้านลิตร/เดือน ในเดือน ธ.ค. และเมื่อสิ้นสุดเดือนก.พ.จะมีปริมาณการใช้เพิ่มเป็น 100 ล้านลิตร/เดือน ซึ่งจะเป็นการใช้ของรถบรรทุกขนาดใหญ่ที่มีอยู่ทั่วประเทศราว 8 แสนคัน จากปัจจุบันที่มีการใช้อยู่เพียง 2,100 คัน และเรือโดยสาร 64 ลำ
ปัจจุบันมีผู้ค้าน้ำมันจำนวน 8 รายที่เข้าร่วมโครงการ ได้แก่ บมจ.ปตท. (PTT), บมจ.ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก (PTTOR), บมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น (BCP), บมจ.ไออาร์พีซี (IRPC), บมจ.ซัสโก้ (SUSCO), บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด เป็นต้น และมีรถบรรทุกขนาดใหญ่เข้าร่วมโครงการจำนวนหนึ่ง ทั้งในส่วนของรถโดยสารประจำทาง ทั้งรถเมล์ และรถบขส. ซึ่งที่ผ่านมาผู้ใช้บริการเริ่มมีความเชื่อมั่นมากขึ้นจากการใช้ที่ผ่านมาแล้วไม่มีปัญหาเรื่องคุณภาพ
น.ส.นันธิกา กล่าวถึงกรณีการช่วยเหลือผู้ประกอบการรถจักรยานยนต์รับจ้าง ให้ใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 และ 91 ในราคาต่ำกว่าปกติ 3 บาท/ลิตรนั้น คาดว่าจะยังไม่สามารถดำเนินการได้ภายในวันที่ 15 ธ.ค.นี้ เนื่องจากยังต้องหารือกับกระทรวงการคลัง เพื่อปรับรูปแบบการให้ความช่วยเหลือผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยในสัปดาห์หน้าจะเริ่มนัดหารือกับกระทรวงการคลังว่าแนวทางการช่วยเหลือจะเป็นอย่างไร ขณะที่เบื้องต้นทาง PTT ก็ยินดีที่จะใช้ความช่วยเหลือระดับหนึ่ง
"ตอนนี้วันที่ 15 ธันวาฯน่าจะเลื่อนออกไปก่อนไม่มีกำหนด ต้องขอเคลียร์กับคลังก่อนเพราะรูปแบบเปลี่ยนไปจากเดิมขึ้นอยู่กับผลการหารือกับกระทรวงการคลัง ดูความเป็นไปได้ว่าจะเป็นรูปแบบไหน ปัญหาส่วนหนึ่งมาจากเงินที่จะใช้อุดหนุน และอีกส่วนหนึ่งก็มีเงื่อนไขประกอบซึ่งเราต้องเจรจาทุกเงื่อนไขพร้อม ๆ กัน แต่ก็จะเร่งให้เร็ว สัปดาห์หน้าก็จะเริ่มนัดหารือกับทางคลัง"น.ส.นันธิกา กล่าว
อนึ่ง ก่อนหน้านี้กระทรวงพลังงานมีแผนที่จะช่วยลดค่าครองชีพให้กับกลุ่มผู้ประกอบการรถจักรยานยนต์รับจ้าง ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ให้ได้รับส่วนลดราคาน้ำมันในอัตรา 3 บาท/ลิตร โดยจะเป็นการอุดหนุนจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง 2 บาท/ลิตร และผู้ค้ามาตรา 7 ที่สมัครใจช่วยเหลืออีก 1 บาท/ลิตร แต่ล่าสุดนายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รมว.พลังงาน ออกมาระบุว่าไม่สามารถใช้เงินกองทุนน้ำมันฯได้แล้วเพราะติดขัดข้อกฎหมาย ซึ่งอาจต้องให้ผู้ค้ามาตรา 7 ที่สมัครใจอุดหนุนเพิ่มเป็น 3 บาท/ลิตร ขณะที่ปัจจุบันมีกลุ่มรถจักรยานยนต์รับจ้างที่ขึ้นทะเบียนกับกรมขนส่งทางบก และมีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ทั้งสิ้น 4 หมื่นคัน