นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจ ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) ครั้งที่ 2/2561 กล่าวก่อนการประชุมว่า จะมีการพิจารณาการกำหนดกรอบหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการอนุมัติเงินกองทุนรวมของคณะบริหารกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร, แผนการดำเนินงานประจำปีงบประมาณ 2561 กองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร, กรอบการขอใช้เงินกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรปี 2562, มาตรการช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาหนี้สินอย่างครบวงจร, รวมทั้งแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการ คชก. ด้วย
นอกจากนี้ยังมีเรื่องเพื่อทราบถึงผลการหารือการกำหนดเงื่อนไขวงเงินในการอนุมัติจัดสรรเงินตามแผนการดำเนินงานประจำปีของคณะกรรมการบริหารกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร และสถานะการเงินกองทุนอีกด้วย
นายสมคิด กล่าวว่า การทำงานของคณะกรรมการฯ เป็นสิ่งที่ต้องเร่งรัดให้ทันกับเวลา เพราะบางอย่างหากล่าช้า เช่นกรณีของข้าวก็จะทำให้เกษตรกรไม่ได้รับประโยชน์ ดังนั้นหลักในการทำงาน คือ ทุกอย่างจะต้องถึงมือเกษตรกร ผ่านการดำเนินการที่มีต้นทุนต่ำ และได้ผลดีมากที่สุด ตลอดจนต้องมีการติดตามผลการทำงานอย่างใกล้ชิด ดังนั้นผู้ที่รับผิดชอบดูแลโครงการจะต้องมีมาตรการควบคุม ติดตามผลงานที่รอบคอบมีความรวดเร็วทันต่อเหตุการณ์ รวมถึงการตรวจสอบและรายงานผลต่อ คชก.
ส่วนโครงการที่เป็นการให้ความช่วยเหลือทางการเงิน เช่น เงินกู้อัตราดอกเบี้ยต่ำ ก็ควรพิจารณาให้กับกลุ่มเกษตรกรเพื่อใช้ดำเนินการให้เกิดความคล่องตัวไม่ติดระเบียบมากนัก รวมถึงสนับสนุนเกษตรกรในด้านของการรวมกลุ่ม
รองนายกรัฐมนตรี เน้นย้ำว่าการบริหารโครงการ จะต้องหลีกเลี่ยงหรือลดค่าใช้จ่ายทางด้านการบริหารจัดการโครงการ ทั้งค่าเก็บรักษา ค่าเสื่อมคุณภาพของสินค้า ซึ่งเป็นสิ่งที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์มาหลายยุคหลายสมัยในเรื่องของค่าบริหารจัดการสูงมากเกินไป