กระทรวงเศรษฐกิจและการคลังของเกาหลีใต้คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจเกาหลีใต้มีแนวโน้มขยายตัวขึ้น 4.8% ในปีพ.ศ.2551 ลดลงจากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 5% เพราะความว่าอัตราความต้องการภายในประเทศจะได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มชะลอตัวลง
"ราคาวัตถุดิบที่สูงขึ้น ซึ่งรวมถึง ราคาน้ำมันดิบ และความผันผวนในตลาดการเงินทั่วโลกจะเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของเกาหลีใต้ เนื่องจากเกาหลีใต้ต้องพึ่งพาการนำเข้าน้ำมันทั้งหมดจากต่างประเทศ ดังนั้น รัฐฐาลจะใช้มาตรการเพื่อสร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ ซึ่งรวมถึงการติดตามความเคลื่อนไหวของราคาและการบริหารความเสี่ยงจากภายนอก อาทิ ราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น"
"เราจะใช้มาตรการเสริมสร้างเศรษฐกิจระดับมหภาคและจุลภาคให้แข็งแกร่งขึ้น เพื่อสร้างเสถียรภาพด้านราคาและทำให้เศรษฐกิจขยายตัวแบบยั่งยืน" กระทรวงฯกล่าว
ทั้งนี้ กระทรวงฯคาดว่า อัตราการอุปโภคบริโภคในภาคเอกชนจะพุ่งขึ้นแตะระดับ 4.5% จากระดับ 4.4% ขณะที่อัตราการลงทุนด้านการก่อสร้างมีแนวโน้มขยายตัวขึ้นแตะระดับ 3.5% จากระดับ 2.2% และการลงทุนด้านสาธารณูปโภคจะชะลอตัวลงแตะระดับ 7% จากระดับ 7.3%
ประธานาธิบดี ลี เมียง บัค ของเกาหลีใต้ เริ่มใช้นโยบาย "747" ตามที่ได้ให้คำมั่นสัญญาในช่วงหาเสียง โดยตั้งเป้าผลักดันให้เศรษฐกิจขยายตัว 7%ต่อปี เพิ่มรายได้ประชากรขึ้นเป็น 40,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อคน และสร้างเศรษฐกิจเกาหลีใต้ให้ก้าวขึ้นเป็นตลาดที่แข็งแกร่งอันดับ 7 ของโลกให้ได้ในอีก 5 ปีข้างหน้า สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--