นายศัลยา สุคนธทรัพย์ ผู้จัดการฝ่ายราคา การตลาดขายปลีก บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด ระบุว่า สถานการณ์ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ทรงตัวในระดับสูงขณะนี้สร้างแรงกดดันให้กับผู้ค้าน้ำมัน เนื่องจากไม่สามารถปรับขึ้นราคาขายปลีกในประเทศให้สอดคล้องกับต้นทุนที่แท้จริง ซึ่งจะส่งผลเสียต่อการลงทุนและขยายธุรกิจของอุตสาหกรรมการค้าปลีกน้ำมันในระยะยาว
"สภาวะนี้ยิ่งทำให้การขายน้ำมันทุกลิตรขาดทุนต่อเนื่องหนักยิ่งขึ้น และหากทุก ๆ บริษัทฯ ต้องแบกรับต้นทุนที่สูงขึ้นเช่นนี้ เชื่อว่าจะไม่ส่งผลดีต่อการลงทุนและการขยายธุรกิจของอุตสาหกรรมการค้าปลีกน้ำมันในประเทศไทยในระยะยาวอย่างแน่นอน" นายศัลยา กล่าว
ทั้งนี้ จากการติดตามสถานการณ์น้ำมันอย่างใกล้ชิดของบริษัทฯ พบว่าโอกาสที่ราคาน้ำมันจะปรับลดลงมีโอกาสน้อยมาก เนื่องจากราคาน้ำมันดิบที่ทะลุระดับ 100 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรลไปแล้ว ยังมีแนวโน้มทะยานขึ้นอย่างต่อเนื่อง และราคาน้ำมันสำเร็จรูปที่ตลาดสิงคโปร์ น้ำมันเบนซิน 95 ปิดที่ระดับ 102.86 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดีเซลปิดที่ระดับ 108.28 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล
นายศัลยา กล่าวว่า แม้ที่ผ่านมาจะมีการปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศไปบ้างแล้ว แต่ไม่สอดคล้องกับต้นทุนราคาโลก และไม่สะท้อนให้ค่าการตลาดอยู่ในระดับที่เหมาะสม โดยค่าการตลาดควรจะอยู่ในระดับ 1.50-2.00 บาท ตามผลการศึกษาโดยสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.) ร่วมกับสถาบันปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย และธนาคารแห่งประเทศไทย
สำหรับราคาน้ำมันขายปลีกในเขตกรุงเทพฯ และเขตปริมณฑล ปัจจุบันเป็นดังนี้ เบนซิน 95 อยู่ที่ลิตรละ 33.69 บาท, เบนซิน 91 อยู่ที่ลิตรละ 32.39 บาท, แก๊สโซฮอล์ อี 20 อยู่ที่ลิตรละ 27.69 บาท, แก๊สโซฮอล์ 95 อยู่ที่ลิตรละ 29.69 บาท, แก๊สโซฮอล์ 91 อยู่ที่ลิตรละ 28.89 บาท และดีเซลอยู่ที่ลิตรละ 29.74 บาท
--อินโฟเควสท์ โดย ธนวัฏ เสือแย้ม/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--