การชะลอตัวทางเศรษฐกิจในสหรัฐอเมริกาอาจจะไม่สร้างความเสียหายให้กับเศรษฐกิจโลกมากนัก เนื่องจากการขยายตัวอย่างแข็งแกร่งในประเทศกำลังพัฒนา
ฮันส์ ทิมเมอร์ นักเศรษฐศาสตร์ชั้นนำของธนาคารโลก กล่าวว่า การเติบโตอย่างแข็งแกร่งของประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งเป็นผลมาจากความสามารถในการผลิตที่เพิ่มขึ้นและการใช้นโยบายเศรษฐกิจที่เหมาะสม กำลังมีบทบาทสำคัญในการช่วยบรรเทาผลกระทบจากเศรษฐกิจสหรัฐที่อ่อนแอลง
ธนาคารโลกระบุว่า ประเทศกำลังพัฒนามีเศรษฐกิจเติบโตแข็งแกร่งที่ระดับ 7.4% ในปีที่แล้ว ท่ามกลางเศรษฐกิจสหรัฐที่ชะลอตัวลง โดยคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐน่าจะอยู่ที่ประมาณ 2.2% ในปี 2550 ชะลอตัวลงจาก 2.9% ในปีก่อนหน้า และคาดว่าเศรษฐกิจของประเทศกำลังพัฒนาน่าจะขยายตัวรวดเร็วถึงระดับ 7.1% ในปี 2551 ขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐน่าจะอ่อนตัวลงอีกแตะที่ 1.9% ในปีนี้
ทิมเมอร์ ซึ่งเป็นผู้ร่วมเขียน Global Economic Prospects 2008 ของธนาคารโลก กล่าวว่า สาเหตุที่ประเทศกำลังพัฒนามีการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งนั้น ก็เนื่องมาจากปัจจัยภายในประเทศ ไม่ว่าจะเป็นความสามารถในการผลิตที่เพิ่มขึ้น การปรับปรุงนโยบายเศรษฐกิจให้มีความเหมาะสม การเปิดพรมแดน ซึ่งส่งผลให้มีการแข่งขันในตลาดภายในประเทศมากขึ้น
ทั้งนี้ ภูมิภาคเอเชียตะวันออกมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการกระตุ้นให้เศรษฐกิจของประเทศกำลังพัฒนาเติบโตแข็งแกร่ง โดยเอเชียตะวันออกขยายตัว 10% ในปีที่แล้ว โดยเฉพาะประเทศจีน ซึ่งขยายตัวถึง 11.3%
โดยเอเชียตะวันออกในความหมายของธนาคารโลก ประกอบด้วย กัมพูชา จีน ฟิจิ อินโดนีเซีย คิริบาติ เกาหลีใต้ ลาว มาเลเซีย หมู่เกาะมาร์แชล ไมโครนีเซีย ปาเลา ปาปัวนิวกินี ฟิลิปปินส์ ซามัว หมู่เกาะโซโลมอน ติมอร์ตะวันออก ตองกา วานูอาตู เวียดนาม และไทย
ทิมเมอร์กล่าวว่า ภูมิภาคเอเชียตะวันออกและประเทศกำลังพัฒนาอื่นๆสามารถรับมือกับผลกระทบของปัญหาวุ่นวายทางการเงินที่ถูกจุดปะทุขึ้นจากวิกฤติในตลาดซับไพรม์สหรัฐได้เป็นอย่างดี โดยจนถึงขณะนี้ วิกฤติดังกล่าวส่งผลต่อประเทศกำลังพัฒนาในวงกำจัดเท่านั้น สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปนัยดา ปัทมโกวิท โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--