ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์แข็งเทียบยูโร ขณะตลาดจับตาประชุมธ.กลางยุโรป

ข่าวต่างประเทศ Thursday January 10, 2008 07:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ภาวะการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (9 ม.ค.) ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร หลังจากเยอรมนีเปิดเผยข้อมูลส่งออกและค้าปลีกที่อ่อนแอ ซึ่งทำให้สกุลเงินยูโรอ่อนตัวลง นอกจากนี้ ค่าเงินดอลลาร์ยังได้รับอิทธิพลจากกระแสคาดการณ์ที่ว่ารัฐบาลสหรัฐอาจใช้มาตรการลดหย่อนภาษี ขณะที่นักลงทุนจับตาดูการประชุมของธนาคารกลางยุโรปเพื่อกำหนดทิศทางอัตราดอกเบี้ยในวันพฤหัสบดี
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินยูโรอ่อนตัวลงแตะระดับ 1.4663 ดอลลาร์ต่อยูโร จากระดับของวันอังคารที่ 1.4710 ดอลลาร์ต่อยูโร ขณะที่ค่าเงินปอนด์ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 9 เดือนที่ 1.9572 ดอลลาร์ต่อปอนด์ จากระดับ 1.9713 ดอลลาร์ต่อปอนด์
ดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งขึ้นแตะระดับ 109.47 เยนต่อดอลลาร์ จากระดับ 109.36 เยนต่อดอลลาร์ และแข็งแกร่งขึ้นแตะระดับ 1.0111 ดอลลาร์แคนาดาต่อดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0022 ดอลลาร์แคนาดาต่อดอลลาร์สหรัฐ แต่ดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงแตะระดับ 1.1144 ฟรังซ์สวิสต่อดอลลาร์ จากระดับ 1.1145 ฟรังซ์ต่อดอลลาร์
ค่าเงินยูโรได้รับแรงกดดันจากรายงานของรัฐบาลเยอรมนีที่ระบุว่า ยอดค้าปลีกเดือนพ.ย.ร่วงลง 1.3% มากกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลล์ดาวโจนส์ นิวส์ไวร์ คาดว่าจะลดลงเพียง 1% ขณะที่ค่าเงินปอนด์ได้รับปัจจัยลบจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางอังกฤษอาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันพฤหัสบดีนี้
ส่วนดอลลาร์สหรัฐได้รับปัจจัยหนุนจากการที่ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช กล่าวว่า เขากำลังจับตาดูภาวะเศรษฐกิจสหรัฐอย่างใกล้ชิด เพื่อพิจารณาว่ารัฐบาลสหรัฐจำเป็นต้องใช้มาตรการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้นหรือไม่ โดยบุชมั่นใจว่าระบบเศรษฐกิจสหรัฐมีศักยภาพเพียงพอที่จะต้านทานปัญหาต่างๆ แม้แต่ปัญหาที่หนักมากก็ตาม
"ผมเห็นเศรษฐกิจสหรัฐผ่านปัญหาต่างๆมาแล้วหลายครั้ง" บุชกล่าว "ผมมั่นใจในความแข็งแกร่งของรากฐานทางเศรษฐกิจ ถ้าจะมีปัญหาให้กังวลบ้างก็คงเป็นปัญหาตลาดอสังหริมทรัพย์ที่กำลังอยู่ในภาวะซบเซา" บุชกล่าว ซึ่งการแสดงความคิดเห็นของเขาทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่า รัฐบาลสหรัฐอาจจะใช้นโยบายลดหย่อนภาษี
นายเจมส์ ฮิวจ์ นักวิเคราะห์จากซีเอ็มซี มาร์เก็ตส์กล่าวว่า ธนาคารกลางยุโรปกำลังเผชิญกับดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจและผู้บริโภคที่ปรับตัวลดลงในทวีปยุโรป ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพุ่งขึ้นแตะระดับ 3.1% ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้ว่าจะต้องอยู่ต่ำกว่าระดับ 2%
"เราคาดว่าในวันพฤหัสบดีนี้ นักลงทุนจะจับตาดูผลการประชุมธนาคารกลางยุโรปและอังกฤษ และจะจับตาดูแถลงการณ์ของเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ เพื่อเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าเฟดจะใช้มาตรการใดอีกในการกระตุ้นเศรษฐกิจ" นายฮิวจ์กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ