นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองประธานกรรมการเฉพาะกิจเพื่อบริหารการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) กล่าวปาฐกถาพิเศษหัวข้อ "จากอีอีซีสู่เศรษฐกิจพิเศษทั่วประเทศ" ในงานสัมมนา Next Step Thailand : EEC ยุทธศาสตร์ไทยเชื่อมโลกว่า คาดว่าภายในเดือน พ.ย.หรือไม่เกินต้นเดือน ธ.ค.จะขยายโครงการพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ (SEC) ลงไปยังพื้นที่ภาคใต้ (SEC) ครอบคลุมพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และจังหวัดระนอง
"ขณะนี้การจัดทำรายละเอียดเสร็จแล้ว เหลือแค่ทำวิดีโอพรีเซ็นเทชั่น คิดว่าจะเสนอเข้า ครม.ได้อย่างช้าไม่เกินต้นเดือนธันวาฯ" นายกอบศักดิ์ กล่าว
สำหรับแผนพัฒนาของโครงการ SEC ประกอบด้วย การฟื้นฟูและพัฒนาพื้นที่ป่าชายเลน, การพัฒนาประมงชายฝั่ง, การพัฒนาอุตสาหกรรมยางพาราและปาล์มน้ำมัน, การพัฒนาท่าเรือระนอง, การสร้างรถไฟรางคู่ ชุมพร- ระนอง
นายกอบศักดิ์ กล่าวว่า โครงการนี้จะรองรับการส่งออกสินค้าไปทางฝั่งอันดามัน โดยใช้งบประมาณราวหนึ่งหมื่นล้านบาทพัฒนาท่าเรือระนองที่มีอยู่เดิม และลงทุนโครงการรถไฟรางคู่อีกหนึ่งหมื่นล้านบาทเชื่อมจากจังหวัดชุมพร-ระนอง
"โครงการนี้จะเริ่มได้คงราวกลางปีหน้าเพราะต้องรอผลศึกษา แต่รัฐบาลนี้จะวางกรอบเอาไว้ และคิดว่าจะมีการสานต่อถึงแม้จะมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง เพราะเป็นโครงการที่มาจากความต้องการของประชาชน ใช้งบไม่มากเพราะเป็นการลงทุนเพื่อปรับปรุงของที่มีอยู่เดิม" นายกอบศักดิ์ กล่าว
นายกอบศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับโครงการ EEC เป็นเรื่องสำคัญเร่งด่วนตามนโยบายรัฐบาลที่เกิดขึ้นมาเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีที่มีความก้าวหน้าไปอย่างมาก และการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของจีนและอินเดีย เพื่อให้สามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ และถือเป็นการพัฒนานำร่องก่อนที่จะขยายไปยังภูมิภาคอื่น
ทั้งนี้ ตามแผนพัฒนา EEC จะมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานใหญ่ 5 โครงการ ได้แก่ สนามบิน, ท่าเรือมาบตาพุด ระยะที่ 3, ท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3, รถไฟฟ้าความเร็วสูง และศูนย์ซ่อมอากาศยาน
"เราตื่นมาแล้วพบว่ารอบตัวเปลี่ยนแปลงไปมาก ยักษ์สองตัว (จีน/อินเดีย) กำลังตื่น ขณะที่เราใกล้หมดบุญเก่า แล้วเราจะทำอย่างไรจากเดิมที่เศรษฐกิจเคยโตเกิน 10% แต่วันนี้ลงมาอยู่ที่ปีละ 2-3%...โครงการนี้จะเป็นบุญใหม่ช่วยให้เศรษฐกิจของประเทศขยายตัวต่อไปได้อีก 30-40 ปี" นายกอบศักดิ์ กล่าว