นางสิริมา หิรัญเจริญเวช รองผู้ว่าการกลุ่มยุทธศาสตร์ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และประธานกรรมการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนโครงการสรรหาเอกชน(PPP) เพื่อร่วมลงทุนเป็นผู้ประกอบการสถานีบรรจุและแยกสินค้ากล่อง (ไอซีดี) ลาดกระบัง มูลค่าโครงการ 2 พันล้านบาท เปิดเผยว่า รฟท.ได้เปิดจำหน่ายเอกสารข้อเสนอร่วมลงทุน โครงการสรรหาเอกชนเพื่อร่วมลงทุนเป็นผู้ประกอบการสถานีบรรจุและแยกสินค้ากล่อง (ไอซีดี) ที่ลาดกระบัง ตั้งแต่วันที่ 3 กันยายน เป็นต้นมาจนถึงวันที่ 1 พฤศจิกายน 2561
โดยมีบริษัทเอกชนและบุคคลที่ให้ความสนใจเข้าซื้อเอกสารจำนวน 10 ราย ประกอบไปด้วย
1. บริษัท แหลมฉบัง อินเตอร์เนชั่นแนล เทอร์มินัล จำกัด
2. บมจ. นามยง เทอร์มินัล (NYT)
3. บริษัท ริเวอร์เอนจิเนียริ่ง จำกัด
4. บริษัท อีสเทิร์น ซี แหลมฉบัง เทอร์มินัล จำกัด
5. บริษัท เอเวอร์กรีน คอนเทนเนอร์ เทอร์มินัล(ประเทศไทย) จำกัด
6. บริษัท คอนเทนเนอร์ ดีโป้ กรุงเทพ จำกัด
7. นายประกิจ แก้วแกลบ
8. บริษัท ทิฟฟ่า ไอซีดี จำกัด
9. บริษัท บางกอกโมเดอร์น
10. บริษัท วันไฮไลส์ จำกัด กระทำการแทน โดย บริษัทวันไฮไลท์ ประเทศไทย จำกัด
ทั้งนี้ รฟท.ได้มีการชี้แจงรายละเอียดและตอบคำถามแก่บริษัทที่สนใจเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2561 ที่ผ่านมา ซึ่งโครงการสรรหาเอกชนเพื่อร่วมลงทุนเป็นผู้ประกอบการสถานีบรรจุและแยกสินค้ากล่อง (ไอซีดี) ที่ลาดกระบัง ได้ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี ซึ่งให้การรถไฟฯ เป็นผู้ดำเนินการสรรหาเอกชน เพื่อรับสัมปทานเป็นผู้ประกอบการ ไอซีดี ลาดกระบังใหม่ ตามพระราชบัญญัติให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556 ในการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานด้านการบรรจุและแยกตู้สินค้า (Container) ที่มีการนำเข้า หรือการส่งออกสินค้าไปยังต่างประเทศ ลดต้นทุนด้านการใช้พลังงานขนส่งสินค้าตามนโยบายของรัฐ และช่วยลดต้นทุนการในการขนส่งให้ผู้ส่งออกและนำเข้าของต่างประเทศ เนื่องจากระบบเป็นการขนส่งที่ใช้ต้นทุนต่ำ แต่สามารถขนส่งสินค้าได้ครั้งละเป็นจำนวนมาก มีความปลอดภัยช่วยลดปัญหาด้านจราจร และช่วยลดมลพิษทางสิ่งแวดล้อมได้อีกด้วย
สำหรับกำหนดการรับซองเอกสาร จะมีขึ้นในวันศุกร์ที่ 30 พฤศจิกายน 2561 จากนั้นจะประกาศผลการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุน ภายใน 45 วัน นับจากวันที่ยื่นซองเอกสารเสนอราคา ที่ฝ่ายบริการสินค้า การรถไฟแห่งประเทศไทย
"เปิดให้ยื่นซองวันที่ 30 พ.ย.น รู้ผลภายใน 45 วัน หรือภายในเดือน ม.ค.62 โครงการนี้เป็นโครงการ PPP ที่จะให้สัญญาสัมปทานกับเอกชนระยะเวลา 20 ปี โดยใช้พื้นที่โครงการเดิม แต่ให้เอกชนเข้ามาปรับปรุงตามที่กำหนดไว้ใน TOR ฉะนั้นการลงทุนของเอกชน มีอุปกรณ์ยกขน มีเครน และตอนี้ลาดทรุด ก็ต้องมีการปรับปรุง แผนการบริหารจัดการพื้นที่ ซึ่งขณะนี้มีปัญหารถติด โครงการนี้เป็นส่วนส่งเสริมให้มีการนำเข้าส่งออกไปยังท่าเรือแหลมฉบัง"นางสิริมา กล่าว