รายงานขององค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ระบุว่า กลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกจะเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวเล็กน้อยในปีนี้ เนื่องจากมีความเป็นไปได้ว่า การส่งออกจะปรับตัวลดลง เพราะภาวะเศรษฐกิจสหรัฐที่สั่นคลอน แต่โดยภาพรวมแล้วประเทศเหล่านี้จะยังคงมีเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งจากอานิสงส์การขยายตัวทางเศรษฐกิจที่รวดเร็วของจีนและอินเดีย
รายงานดังกล่าวระบุว่า ในปีนี้ เศรษฐกิจอินเดียอาจขยายตัวขึ้น 9.0% ขณะที่ประเมินว่าเศรษฐกิจจีนจะขยายตัว 10.8%
สหประชาชาติและคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคมภาคพื้นเอเชีย-แปซิฟิก(UNESCAP) คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจในภูมิภาคนี้ซึ่งไม่รวมถึงออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และญี่ปุ่น คาดว่าจะขยายตัวขึ้น 7.8% ในปีนี้ ซึ่งลดลงมาจากระดับ 8.2% ในปี 2550
"ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกจะเผชิญกับความยุ่งยากจากปัจจัยภายนอก เช่น ภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐ และสถานการณ์ความเคลื่อนไหวของสกุลเงินต่างๆในภูมิภาคที่แข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง"
ภาวะชะลอตัวทางเศรษฐกิจสหรัฐและการขยายตัวที่ซบเซาในญี่ปุ่นจะเป็นปัจจัยที่กดดันกลุ่มประเทศที่พึ่งการส่งออกเป็นปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจในภูมิภาค" รายงานระบุพร้อมทั้งเตือนว่า การส่งออกสิ่งทอและสินค้าเกษตรอาจได้รับผลกระทบอย่างหนักหน่วงจากอุปสงค์ที่อ่อนแอในยุโรปและญี่ปุ่น
อย่างไรก็ตาม รายงานดังกล่าวระบุว่า การขยายตัวที่สดใสในจีนและอินเดีย และปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง รวมถึงราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวสูงขึ้นจะเป็นปัจจัยที่กระตุ้นการขยายตัวในภูมิภาค
ท่ามกลางปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้ สหประชาชาติกล่าวว่า วิกฤตการณ์ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐเป็นปัจจัยลบสำคัญที่ฉุดรั้งให้เศรษฐกิจเคลื่อนไหวอยู่ในช่วงขาลงในปี 2551 พร้อมทั้งเตือนว่า ความสูญเสียที่มีต้นตอจากปัญหาปล่อยกู้จำนองให้ลูกหนี้กลุ่มซับไพรม์อาจขยายวงกว้างมากขึ้นในปีนี้
นอกจากนี้ สหประชาชาติยังกล่าวด้วยว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นอาจจะขยายตัวในระดับที่ชะลอตัวลงในปี 2551 มาอยู่ที่ระดับ 1.7% จากปีก่อนหน้านี้ที่ 2.0% ขณะที่อัตราเงินเฟ้อในภูมิภาคยังคงอยู่ในระดับสูง เนื่องจากสถานการณ์ด้านราคาน้ำมันในตลาดโลกและราคาสินค้าที่พุ่งสูงขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--