องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจีนอาจชะลอตัวลง หากเศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย โดยคาดว่าอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจจีนจะชะลอตัวลงสู่ระดับ 10% ในปีนี้ จากปีที่แล้วที่ระดับ 11.4%
ยูเอ็นกล่าวในรายงาน "World Economic Situation and Prospects 2008" ว่า ราคาที่อยู่อาศัยที่ตกต่ำลงในสหรัฐอาจส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวลงอย่างมีนัยสำคัญในปีนี้ ซึ่งหากสถานการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นตามที่คาดไว้ ก็จะทำให้เศรษฐกิจจีนชะลอตัวลงด้วย
อย่างไรก็ตาม ยูเอ็นคาดว่าเมื่อพิจารณาจากปัจจัยโดยรวมแล้ว เศรษฐกิจจีนยังคงเคลื่อนตัวในทิศทางที่เป็นบวกในปีนี้ โดยคาดว่าอัตราลงทุนในสินทรัพย์คงที่จะเป็นปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญ ส่วนการอุปโภคบริโภคในภาคเอกชนจะแข็งแกร่งขึ้น เนื่องจากอัตราค่าแรงที่สูงขึ้นและตลาดหุ้นจีนที่พุ่งขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในช่วง 2 ปีที่แล้ว
ทั้งนี้ ยูเอ็นคาดว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจจีนยังคงมีอิทธิพลต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกมากขึ้น โดยในปีที่แล้ว อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจจีนคิดเป็นสัดส่วน 17% ของอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของโลก ซึ่งมีสัดส่วนเท่ากับสหรัฐอเมริกา
"การค้าระหว่างจีนกับประเทศอื่นๆทั่วโลกเติบโตขึ้นเป็น 3 เท่า ซึ่งเป็นสถิติที่ขยายตัวรวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่จีนเข้าร่วมเป็นภาคีกับองค์การการค้าโลก (ดับเบิ้ลยูทีโอ) ในปี 2544 ซึ่งหากจีนรักษาอัตราการค้าระหว่างประเทศไว้ที่ระดับดังกล่าวได้ ก็จะทำให้จีนก้าวขึ้นเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่สุดของโลกได้ในปีหน้า"
"อุตสาหกรรมของจีนที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศที่กำลังพัฒนามีความคืบหน้าขึ้นด้วย ความต้องการวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้นของจีนมีส่วนสำคัญที่ทำให้สินค้าโภคภัณฑ์ระดับปฐมภูมิปรับตัวสูงขึ้น และทำให้รายได้จากการส่งออกของกลุ่มประเทศที่กำลังพัฒนาหลายแห่งพุ่งสูงขึ้นด้วย โดยในปีที่แล้ว จีนนำเข้าสินแร่เหล็กเพิ่มขึ้นกว่า 40% ทองแดงกว่า 100% และน้ำมันพืช 80%" ยูเอ็นกล่าว สำนักข่าวซินหัวรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--