นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือนต.ค.61 อยู่ที่ระดับ 92.6 เพิ่มขึ้นจากระดับ 91.5 ในเดือนก.ย.61 ทั้งนี้ ค่าดัชนีฯ ที่เพิ่มขึ้น เกิดจากองค์ประกอบยอดคำสั่งซื้อโดยรวม ยอดขายโดยรวม ปริมาณการผลิต และผลประกอบการ
ในเดือนต.ค. ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมปรับตัวดีขึ้น เป็นผลมาจากความเชื่อมั่นผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดใหญ่ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า โดยมีปัจจัยบวกจากคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นเพื่อจำหน่ายในช่วงปลายปี ขณะที่ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงในเดือนที่ผ่านมา ส่งผลดีต่อต้นทุนการขนส่ง ประกอบกับในเดือนต.ค.ได้ผ่านพ้นช่วงฤดูมรสุม ทำให้การขนส่งสินค้าทางเรือไปต่างประเทศได้ตามปกติ นอกจากนี้ ยังพบว่าการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐ ส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้าง
ประธาน ส.อ.ท. กล่าวว่า ผู้ประกอบการโดยเฉพาะขนาดย่อม ยังมีความรู้สึกกังวลต่อต้นทุนการผลิตที่ปรับตัวสูงขึ้น และปัญหาสภาพคล่องในการดำเนินกิจการ นอกจากนี้สงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ที่ยังไม่คลี่คลาย อีกทั้งเงินบาทที่แข็งค่ามากกว่าประเทศอื่นในภูมิภาคและในกลุ่มประเทศ Emerging Market หรือตลาดเกิดใหม่ที่เป็นคู่ค้าและคู่แข่งของไทย เป็นปัจจัยที่ผู้ประกบการส่งออกมีความกังวลและต้องติดตามใกล้ชิด
ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นฯ คาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้าปรับตัวเพิ่มขึ้น อยู่ที่ระดับ 106.7 เพิ่มขึ้นจากระดับ 106.1 ในเดือนก.ย. สะท้อนความเชื่อมั่นในอนาคตอยู่ในระดับที่ดี โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่เดินหน้าอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในช่วงต้นปี 2562 คาดว่าส่งผลดีต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในระยะต่อไป
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการได้มีข้อเสนอให้ภาครัฐออกมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายและการลงทุนภายในประเทศ ต่อเนื่องไปจนถึงปี 2562 เพื่อสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจ และควรส่งเสริมการค้าการลงทุนในกลุ่มประเทศอาเซียน รวมทั้งเจรจาลดมาตรการกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษี (Non-Tariff Barriers : NTB) ตามข้อตกลงอาเซียน