นายศรายุทธ ยิ้มยวน รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จัดทำโครงการสานพลังประชารัฐเพื่อสนับสนุนการปลูกข้าวโพดหลังฤดูทำนา โดยประสานกับหน่วยงานราชการ ภาคเอกชน และ ธ.ก.ส. ขับเคลื่อนมาตรการจูงใจให้เกษตรกรลดรอบการปลูกข้าวเพื่อลดปัญหาผลผลิตข้าวล้นตลาดและราคาตกต่ำ และหันมาปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์หลังฤดูการทำนาแทน ซึ่งข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เป็นที่ต้องการของตลาด โดยดำเนินการเชื่อมโยงแหล่งรับซื้อผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และผลผลิตการเกษตรอื่น ๆ ร่วมกับกระทรวงพาณิชย์และภาคเอกชนตามแนวทางประชารัฐ อันเป็นการสร้างดุลยภาพของอุปสงค์และอุปทาน สร้างรายได้ให้กับเกษตรกรอย่างยั่งยืน เป้าหมายพื้นที่ 2 ล้านไร่ ใน 33 จังหวัดทั่วประเทศ แบ่งเป็น ภาคเหนือ 15 จังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 15 จังหวัด ภาคกลาง 2 จังหวัด และภาคตะวันออก 1 จังหวัด ระยะเวลาดำเนินโครงการ ตั้งแต่บัดนี้ ถึง 30 กันยายน 2562
ทั้งนี้ ธ.ก.ส. จะสนับสนุนสินเชื่อ โดยแบ่งเป็น 3 โครงการ คือ 1) โครงการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์หลังฤดูทำนา เพื่อให้เกษตรกรใช้เป็นทุนหมุนเวียนในการผลิตและจัดหาปัจจัยการผลิตผ่านบัตรเกษตรสุขใจ โดยผู้ขอสินเชื่อจะต้องเป็นเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตรและมีความประสงค์ปรับเปลี่ยนการปลูกข้าวมาปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ในวงเงินไร่ละไม่เกิน 2,000 บาท พื้นที่ไม่เกิน 15 ไร่ วงเงินกู้รวมไม่เกิน 30,000 บาทต่อราย อัตราดอกเบี้ยเพียงร้อยละ 0.01 ต่อปี ระยะเวลาชำระคืนไม่เกิน 6 เดือน นับตั้งแต่วันกู้ วงเงินกู้รวม 4,000 ล้านบาท เริ่มจ่ายเงินกู้ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2561 – 31 มกราคม 2562
2) โครงการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์หลังฤดูทำนาผ่านสหกรณ์การเกษตร เพื่อให้เกษตรกรที่เป็นสมาชิกสหกรณ์การเกษตรขอรับสินเชื่อตามโครงการดังกล่าวผ่านสหกรณ์การเกษตรที่ตนเองเป็นสมาชิก โดยสหกรณ์สามารถกู้ได้สูงสุดไม่เกิน 10 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.01 ต่อปี เป็นระยะเวลา 6 เดือน นับตั้งแต่วันกู้ ทั้งนี้ หากสหกรณ์ไม่ได้เข้าร่วมโครงการ เกษตรกรสมาชิกสามารถ ขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการสหกรณ์อนุญาตให้เข้าร่วมโครงการได้ จากนั้นจึงติดต่อกับ ธ.ก.ส.ในพื้นที่เพื่อขึ้นทะเบียนเป็นลูกค้าและขอรับสินเชื่อตามโครงการ ระยะเวลาจ่ายเงินกู้ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2561 – 31 มกราคม 2562
3) โครงการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวโพดเลี้ยงสัตว์หลังฤดูทำนา ผ่านสหกรณ์การเกษตร เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการรวบรวมข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ โดยสหกรณ์สามารถกู้ได้สูงสุดไม่เกิน 10 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1 ต่อปี เป็นระยะเวลา 6 เดือน นับตั้งแต่ วันกู้ วงเงินกู้รวม 7,200 ล้านบาท ระยะเวลาจ่ายเงินกู้ ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2562 – 30 มิถุนายน 2562
นอกจากนี้ ธ.ก.ส.ยังประสานกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนมาให้ความรู้โดยการจัดอบรมวิธีการปลูกและเก็บเกี่ยวข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และกรณีเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติและจากศัตรูพืช เกษตรกรยังได้รับความช่วยเหลือผ่านโครงการประกันภัยพืชผล โดยรัฐบาลอุดหนุน ค่าเบี้ยประกันภัยในอัตราไร่ละ 65 บาท ให้เกษตรกรทั้งหมด ซึ่งผู้ประสบภัยจะได้รับวงเงินคุ้มครอง 1,500 บาทต่อไร่ สำหรับภัยธรรมชาติ 8 ภัย และวงเงินคุ้มครอง 750 บาทต่อไร่ สำหรับภัยศัตรูพืชหรือโรคระบาด นอกจากนี้ รัฐบาลได้ประสานงานภาคเอกชน อาทิ สมาคมผู้รับซื้อข้าวโพดประกันการรับซื้อผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในราคา 8 บาทต่อกิโลกรัม (เบอร์ 2 ความชื้นไม่เกิน 14.5%) เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้แก่เกษตรกรว่านอกจากจะได้รับการดูแลทั้งด้านเงินทุนการคุ้มครองความเสี่ยงจากการผลิตแล้ว ยังสามารถขายผลผลิตได้ในราคาที่เป็นธรรมช่วยสร้างรายได้ที่แน่นอนอีกด้วย