นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจุบันอีคอมเมิร์ซ มีบทบาทสำคัญในการทำให้ผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายได้โดยตรง และรวดเร็ว ไร้ข้อจำกัดทั้งเรื่องของเวลาและสถานที่ ซึ่งส่งผลให้ผู้ประกอบการสามารถขยายตลาดได้อย่างรวดเร็ว และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันทางการค้า ที่ปัจจุบันต้องแข่งขันกันที่ความเร็วในการตอบสนองต่อความต้องการของตลาด โดยปัจจุบันการค้าออนไลน์ในประเทศไทย มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากสถิติเมื่อ ปี 2560 มีมูลค่า E-Commerce ประมาณ 2.8 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.86% จากปี 2559 และคาดการณ์ว่าภายในปี 2561 จะมีมูลค่า E-Commerce เพิ่มเป็น 3 ล้านล้านบาท
อย่างไรก็ตาม หัวใจสำคัญของธุรกิจออนไลน์ประการหนึ่งคือเรื่องโลจิสติกส์ โดยเฉพาะการจัดส่งสินค้าไปยังผู้บริโภค ซึ่งยังเป็นต้นทุนที่สำคัญของผู้ประกอบการ และมีผลต่อขีดความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจ
หอการค้าไทยได้เล็งเห็นถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป มีการเข้าสู่โลกดิจิทัล และเปลี่ยนวิธีทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่เคยทำในแบบออฟไลน์มาเป็นออนไลน์มากขึ้น จึงมุ่งส่งเสริมผู้ประกอบการไทย ในการใช้อีคอมเมิร์ซมากขึ้น เพื่อนำมาเป็นเครื่องมือในการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ สามารถแข่งขันในเวทีโลกได้อย่างยั่งยืนต่อไป โดยสอดคล้องกับนโยบายหลักขององค์กรที่มุ่งขับเคลื่อน Trade & Services 4.0 ด้วยการใช้นวัตกรรม (Innovation) และความคิดสร้างสรรค์ (Creativity) รวมทั้งการขับเคลื่อนให้เกิดขึ้นจริง (Execution) ด้วยการพัฒนา และยกระดับความสามารถทางการแข่งขันให้แก่สมาชิกทั่วประเทศ โดยเฉพาะการค้าและการลงทุน ซึ่งเป็น 1 ใน 3 Value Chains หลัก (การค้าและการลงทุน เกษตรและอาหาร ท่องเที่ยวและบริการ)
ด้านนางสมร เทิดธรรมพิบูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ ปณท กล่าวว่า ในโอกาสที่หอการค้าไทยครบรอบ 85 ปี ปณท ได้มอบส่วนลดบริการส่งด่วนพิเศษ EMS ในประเทศทันที 20% แก่สมาชิกและเครือข่ายของหอการค้าไทยทุกราย สำหรับการส่งของทุกชิ้น ทุกพิกัด และทุกปลายทางแบบไม่จำกัดจำนวน เป็นเวลา 1 ปีเต็ม เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2561 จนถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2562 เพื่อช่วยเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันให้แก่ผู้ประกอบการไทย
"การสนับสนุนครั้งนี้ถือเป็นความร่วมมือระยะแรกระหว่างไปรษณีย์ไทยกับหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ซึ่งจะมีการขยายความร่วมมือกันต่อไปในอนาคต โดยเฉพาะบริการครบวงจรที่จะช่วยเติมเต็มการค้าอีคอมเมิร์ซแบบออฟไลน์ทูออนไลน์ ออนไลน์ทูออฟไลน์ (O2O eCommerce) เพื่อตอบโจทย์ทุกรูปแบบการค้าในโลกดิจิทัล ภายใต้แพลตฟอร์มของไปรษณีย์ไทยที่มีทั้งเครือข่ายไปรษณีย์ทั่วประเทศ และร้านออนไลน์ www.thailandpostmart.com ตลอดจนบริการการขนส่งรวมถึงกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกทั้งการแสดงตัวตนของสมาชิกนับแสนราย รวมถึงธุรกรรมทางการเงินต่างๆ ให้มีความคล่องตัวยิ่งขึ้น"