ศูนย์วิจัยกสิกรฯ คาดส่งออกไทยช่วงที่เหลือของปีนี้โตใกล้เคียงเดือนต.ค.ที่กลับมาขยายตัวดี มองทั้งปีโตราว 8%

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday November 21, 2018 17:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า มูลค่าการส่งออกของไทยในปี 2561 จะเติบโตได้ใกล้เคียงกับ 8% เพราะโดยปกติแล้ว มูลค่าการส่งออกไทยในเดือนต.ค. และเดือนพ.ย. จะอยู่ในระดับสูง เนื่องจากเป็นช่วงฤดูกาลส่งออกสินค้าสำหรับเทศกาลปลายปี ทั้งเทศกาลวันขอบคุณพระเจ้า (Thanksgiving) รวมไปถึงคริสต์มาส และปีใหม่

"ดังนั้นมูลค่าส่งออกในช่วง 2 เดือนที่เหลือของปี 2561 น่าจะทำได้เฉลี่ยเดือนละใกล้เคียงกับตัวเลขในเดือนต.ค. ที่ 21,735 ล้านดอลลาร์ฯ หรือในกรณีที่ดีอาจจะสูงกว่าเล็กน้อย ซึ่งก็จะทำให้มูลค่าส่งออกไทยทั้งปี 2561 อาจจะเติบโตได้ใกล้เคียง 8%" บทวิเคราะห์ระบุ

สำหรับการส่งออกสินค้าของไทยในเดือนต.ค.61 พลิกกลับมาขยายตัวในระดับสูงที่ 8.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน หรือคิดเป็นมูลค่า 21,757.9 ล้านดอลลาร์ฯ สูงกว่า Consensus ที่ 4.5% หลังจากที่ในเดือนก.ย. การส่งออกสินค้าไทยหดตัว 5.2% โดยการส่งออกสินค้าที่ขยายตัวดีในเดือนต.ค.61 เป็นผลมาจากหลายปัจจัย ดังนี้

1. การส่งออกทองคำกลับมาขยายตัวสูง หลังราคาทองคำโลกในเดือนต.ค.61 ปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับช่วง 1-2 เดือนก่อนหน้า จากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกที่เพิ่มขึ้น (ทองคำเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย) ซึ่งเมื่อหักมูลค่าส่งออกทองคำที่ขยายตัวสูงถึง 240.8% แล้ว การส่งออกสินค้าของไทยขยายตัว 7.3%

2. อานิสงส์จากการเร่งส่งออกสินค้าไปญี่ปุ่นตามคำสั่งซื้อในช่วงก่อนหน้า หลังการขนส่งสินค้าทางเรือหยุดชะงักชั่วคราว เนื่องจากบางพื้นที่ในญี่ปุ่นประสบวาตภัย (พายุไต้ฝุ่น) ในช่วงเดือนก.ย.61 โดยการส่งออกสินค้าไปญี่ปุ่นขยายตัวเร่งขึ้นมากจาก 0.2% ในเดือนก.ย.61 มาที่ 18.7% ในเดือนต.ค.61 สินค้าส่งออกไปญี่ปุ่นที่ขยายตัวดี ได้แก่ เครื่องโทรสาร โทรศัพท์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ (ขยายตัว 177.2%), รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ (ขยายตัว 22.8%), เม็ดพลาสติก (ขยายตัว 69.3%) รวมไปถึงเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ (ขยายตัว 33.9%)

3. การส่งออกน้ำตาลที่ขยายตัวสูงถึง 77.8% โดยเฉพาะการส่งออกน้ำตาลไปฟิลิปปินส์ที่ในเดือนต.ค.61 ขยายตัวสูงถึง 2,639.1% ซึ่งเป็นผลมาจากการเร่งนำเข้านำเข้าสินค้าอาหารของฟิลิปปินส์เพื่อบรรเทาภาวะเงินเฟ้อในประเทศที่เร่งตัวสูงขึ้นหลังประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติ

4. ผู้ประกอบการจีนเร่งนำเข้าสินค้าที่ไทยเป็นสายโซ่อุปทานการผลิตของจีนอีกระลอก เช่น วงจรพิมพ์ เม็ดพลาสติก เคมีภัณฑ์ เป็นต้น เพื่อเร่งผลิตและส่งออกไปสหรัฐฯ ก่อนมีการปรับขึ้นภาษีนำเข้าจาก 10% เป็น 25% ในช่วงเดือนม.ค.61 หลังสถานการณ์การเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนยังไม่ได้ข้อสรุปร่วมกัน ทำให้ผู้ประกอบการส่วนใหญ่คาดว่าสหรัฐฯ จะปรับเพิ่มอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจีน (รอบ 200,000 ล้านดอลลาร์ฯ) จาก 10% มาเป็น 25% ในช่วงต้นปีหน้าอย่างแน่นอน

ส่วนการส่งออกสินค้าไทยในช่วง 10 เดือนแรก (ม.ค.-ต.ค.61) ขยายตัว 8.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมาจากการขยายตัวดีขึ้นของการส่งออกสินค้าในหมวดรถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ตามการฟื้นตัวที่ต่อเนื่องของเศรษฐกิจโลก รวมถึงการส่งออกสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับปิโตรเลียม ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันสำเร็จรูป เคมีภัณฑ์ และเม็ดพลาสติก ซึ่งส่วนหนึ่งได้อานิสงส์จากระดับราคาน้ำมันดิบโลกที่ในปี 2561 อยู่สูงกว่าปี 2560 ประกอบกับได้รับผลบวกจากการเร่งนำเข้าสินค้าจากไทยของจีนเพื่อเร่งผลิตและส่งออกไปตลาดสหรัฐฯ ก่อนที่จะมีการจัดเก็บภาษีนำเข้า


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ