พาณิชย์ เผยมูลค่าการค้าไทย-ลาตินอเมริกา 9 เดือนปีนี้ขยายตัวต่อเนื่อง หลังทำ FTA ไทย-เปรู/ไทย-ชิลี

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday November 22, 2018 12:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า สถานการณ์การค้าระหว่างไทยกับประเทศกลุ่มลาตินอเมริกาในช่วงที่ผ่านมามีมูลค่าการค้าขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-ก.ย.) มูลค่าการค้าระหว่างไทยกับลาตินอเมริกาอยู่ที่ 9,789.2 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 5.7% จากระยะเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นการส่งออก 6,255.7 ล้านเหรียญสหรัฐ และนำเข้า 3,533.6 ล้านเหรียญสหรัฐ

โดยในจำนวนนี้มีประเทศที่ไทยได้จัดทำ FTA ด้วย ได้แก่ ชิลี และเปรู ส่งผลให้การค้ากับชิลีขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากความตกลงการค้าเสรี ไทย-ชิลี มีผลใช้บังคับเมื่อปลายปี 2558 ซึ่งชิลีและไทยได้ลดภาษีศุลกากรระหว่างกันเหลือ 0% ไปแล้ว 90% ของรายการสินค้าทั้งหมด ส่วนที่เหลืออีก 10% จะทยอยลดภาษีเหลือ 0% ในปี 2563 และปี 2566 โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ การค้าระหว่างไทยกับชิลีมีมูลค่า 998 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 18.2% จากระยะเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นการส่งออก 632.1 ล้านเหรียญสหรัฐ และนำเข้า 365.9 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่มูลค่าการส่งออกไปชิลีนั้นมีการใช้สิทธิส่งออกภายใต้ FTA ไทย-ชิลี (ม.ค.-ส.ค.) สูงถึง 545.5 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเป็นการใช้สิทธิเต็มจำนวนรายการสินค้าที่ได้รับสิทธิ ขณะที่นำเข้าโดยใช้สิทธิ 32.5 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็น 9.6% ของมูลค่าการนำเข้ารวม

ส่วนการค้ากับเปรู ไทยจัดทำความตกลงการค้าเสรีไทย-เปรู และมีผลใช้บังคับเมื่อปลายปี 2554 ซึ่งไทยและเปรูได้มีการปรับลดอัตราภาษีศุลกากรเป็น 0% ไปแล้ว (Early Harvest) ราว 70% ของรายการสินค้าทั้งหมด โดยเปรูได้เปิดตลาดให้กับสินค้าส่งออกสำคัญของไทย อาทิ ยานยนต์บางรายการ อุปกรณ์ไฟฟ้า และเครื่องจักรกล เป็นต้น ซึ่งจากการติดตามสถิติการค้าระหว่างไทยกับเปรูในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้พบว่า มีมูลค่า 348.2 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 5.1% จากระยะเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นการส่งออก 245 ล้านเหรียญสหรัฐ และนำเข้า 103.2 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยการส่งออกไปเปรูมีการใช้สิทธิส่งออกภายใต้ FTA ไทย-เปรู (ม.ค.-ส.ค.) 9.5 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 62% จากระยะเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นสัดส่วนการใช้สิทธิ 89.8% ขณะที่นำเข้าโดยใช้สิทธิ 17 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็น 18.8% ของมูลค่าการนำเข้ารวม

อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า ระยะทางที่ห่างไกลและภาษาสเปนที่ชิลีและเปรูใช้ ทำให้ยังเป็นอุปสรรคในการค้าและการลงทุนของนักธุรกิจไทย ดังนั้นผู้ประกอบการจึงควรเร่งพัฒนาศักยภาพ พร้อมกับศึกษาข้อมูลตลาดและพฤติกรรมการอุปโภคบริโภคสินค้าของผู้บริโภคชิลีและเปรู เพื่อสามารถเข้าถึงความต้องการของผู้บริโภคอันจะช่วยเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกันให้มากขึ้น อีกทั้งควรแสวงหาโอกาสและประโยชน์จากความตกลงเปิดตลาดการค้าเสรี ซึ่งผู้ประกอบการและผู้สนใจสามารถตรวจสอบข้อมูลอัตราภาษีภายใต้ข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) ของไทยและของประเทศชิลีและเปรู รวมถึงประเทศคู่เจรจาอื่นๆ เพิ่มเติม ได้ที่เว็บไซต์ www.dtn.go.th หรือที่ http://tax.dtn.go.th

ทั้งนี้ ชิลีและเปรูเป็นคู่ค้าอันดับ 3 และ 4 ของไทยในภูมิภาคลาตินอเมริกา รองจากบราซิลและอาร์เจนตินา โดยสินค้าส่งออกสำคัญของไทยไปชิลีและเปรู ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป เครื่องซักผ้าและเครื่องซักแห้งฯ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบฯ และผลิตภัณฑ์ยาง สินค้านำเข้าสำคัญของไทยจากชิลีและเปรู ได้แก่ สินแร่โลหะอื่นๆ เศษโลหะและผลิตภัณฑ์ สัตว์น้ำสด แช่เย็น แช่แข็ง แปรรูปฯ ผัก ผลไม้และของปรุงแต่งที่ทำจากผัก ผลไม้ เยื่อกระดาษและเศษกระดาษ และปุ๋ย ยากำจัดศัตรูพืชและสัตว์ เป็นต้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ