นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 33.00 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจาก เปิดตลาดเช้าที่ระดับ 32.91 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวตามทิศทางค่าเงินหยวน ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 32.87- 33.00 น.
"บาทอ่อนค่าจากช่วงเช้า เคลื่อนไหวตามทิศทางค่าเงินหยวน เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่มาชี้นำตลาด" นักบริหารเงิน
กล่าว
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบเงินบาทวันพรุ่งนี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.95-33.05 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 112.92 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าอยู่ที่ 113.00 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1401 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าอยู่ที่ 1.1384 ดอลลาร์/ยูโร
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 1,277.03 ล้านบาท(SET+MAI)
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,604.40 จุด ลดลง 12.93 จุด, -0.80% มูลค่าการซื้อขาย 35,246.39 ล้านบาท
- นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มองทิศทางเศรษฐกิจไทยในปี 2562 ว่า มีโอกาสจะ
ขยายตัวได้ 4-4.5% จากปัจจัยการลงทุนที่จะเกิดขึ้น หลังจากรัฐบาลวางนโยบายต่างๆ ไว้ ประกอบกับการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในต้น
ปีหน้า ส่งผลให้เกิดเงินสะพัดในช่วงเลือกตั้ง
- ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยในปี 2562 ยังมีหลายปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตาม
เพราะขณะนี้บรรยากาศของเศรษฐกิจโลกต่างไปจากเดิม ซึ่งแม้ขณะนี้เศรษฐกิจของประเทศขนาดใหญ่ โดยเฉพาะปัญหาสงครามทาง
การค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ที่เริ่มมีความรุนแรงมากขึ้นและไม่น่าจะจบลงได้ง่ายนัก เนื่องจากมาตรการกีดกันทางการค้าที่ทยอย
ออกมา ค่อนข้างเป็นมาตรการที่หวังผลในระยะยาว ขณะที่ตัวเลขการส่งออกของหลายประเทศในเอเชียที่เป็น supply chain เช่น
เดียวกับไทย อาจไม่ได้ลดลงมากนักในช่วงไตรมาสที่ผ่านมา เนื่องจากมีการสั่งซื้อสินค้าไว้ล่วงหน้าแล้วจากการคาดการณ์ว่าจะมี
มาตรการกีดกันทางการค้าเกิดขึ้น ดังนั้นผลกระทบที่เกิดจากมาตรการกีดกันทางการค้าน่าจะเริ่มเห็นความชัดเจนในช่วงต้นปีหน้า
- ผู้ว่าธปท. เห็นว่า หากจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย แต่ก็ไม่มีแรงกดดันที่ทำให้ธนาคารพาณิชย์จะต้องเร่ง
ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามในทันที โดยเฉพาะอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ เนื่องจากมองว่าขณะนี้ในระบบธนาคารพาณิชย์ยังมีสภาพคล่องอยู่ใน
ระดับค่อนข้างสูง ประกอบกับในช่วงอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น ธนาคารพาณิชย์สามารถทำกำไรได้ดีกว่าอยู่แล้ว
- ธนาคารกลางจีน (PBOC) ได้ระงับการดำเนินการทางตลาดเงิน (Open Market Operations - OMO) ใน
วันนี้ เนื่องจากสภาพคล่องในระบบการเงินมีอยู่เป็นจำนวนมาก
- รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยว่า เศรษฐกิจของประเทศยังคงฟื้นตัว ท่ามกลางอุปสงค์ภายในประเทศที่แข็งแกร่ง แม้ว่า
สถานการณ์ทางการค้าจะตึงเครียดมากขึ้น รวมทั้งมีปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ ก็ตาม
- ธนาคารกลางจีน (PBOC) ได้ระงับการดำเนินการทางตลาดเงิน (Open Market Operations - OMO) ใน
วันนี้ เนื่องจากสภาพคล่องในระบบการเงินมีอยู่เป็นจำนวนมาก
- องค์การการค้าโลก (WTO) เปิดเผยว่า WTO จะจัดตั้งคณะทำงานระงับข้อพิพาท (Dispute Settlement
Body - DSB) ขึ้นมา เพื่อรับฟังข้อเรียกร้องจากประเทศต่างๆเกี่ยวกับการเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมของสหรัฐ โดยจะแบ่ง
ออกเป็นคณะผู้พิจารณา เพื่อรับฟังข้อร้องเรียนจาก สหภาพยุโรป (EU) แคนาดา เม็กซิโก นอร์เวย์ รัสเซีย และตุรกี และคณะทำ
งานอีกหนึ่งชุด เพื่อรับฟังข้อร้องเรียนจากสหรัฐในเรื่องการจัดเก็บภาษีเพื่อการตอบโต้
- องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) คาดการณ์ว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายใน
ประเทศ (GDP) ของอังกฤษจะขยายตัว 1.3% ปีนี้ และขยายตัว 1.4% ในปีหน้า
ทั้งนี้ ตัวเลขคาดการณ์ GDP ในปีหน้าได้ถูกปรับเพิ่มขึ้น 0.1% แม้ว่าจะมีปัจจัยความไม่แน่นอนของการแยกตัวของอังกฤษ ออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) อย่างไรก็ตาม OECD คาดว่า GDP ในปี 2563 ของอังกฤษจะขยายตัวเพียง 1.1%