นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มองทิศทางเศรษฐกิจไทยในปี 2562 ว่า มีโอกาสจะขยายตัวได้ 4-4.5% จากปัจจัยการลงทุนที่จะเกิดขึ้น หลังจากรัฐบาลวางนโยบายต่างๆ ไว้ ประกอบกับการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในต้นปีหน้า ส่งผลให้เกิดเงินสะพัดในช่วงเลือกตั้ง
พร้อมทั้งประเมินว่า ภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปี 2561 มีโอกาสขยายตัว 4.2-4.3% ซึ่งในช่วง 2 เดือนสุดท้าย (พ.ย.-ธ.ค.) หากมูลค่าการส่งออกขยายตัวได้ 7-8% ต่อเดือน และท่องเที่ยวกลับมาฟื้นตัว ก็เชื่อว่าไตรมาสที่ 4 เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวในระดับ 4%
นายกอบศักดิ์ กล่าวด้วยว่า โดยในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของรัฐบาล จะเร่งเก็บงานโดยเฉพาะโครงการที่สำคัญ เช่น โครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และปลดล็อกกฏหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการลงทุน โดยเตรียมเสนอโครงการระเบียงเศรษฐกิจใต้ ซึ่งจะมีการก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่เชื่อมโยงจากเขตระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ถึงชุมพรและระนอง รวมทั้งการก่อสร้างและพัฒนาถนนเลียบชายฝั่งอ่าวไทย (Thailand Riviera) เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในช่วงต้นปีหน้า รวมถึงโครงการอนุรักษ์ป่าชายเลน การส่งเสริมประมงพื้นบ้าน
นอกจากนั้นยังเตรียมเดินหน้ากฏหมายดิจิทัล กฏหมายอำนวยความสะดวก การยกเลิกกฏหมายที่ล้าสมัย รวมถึงการสร้างความเข้มแข็งให้กับประชาชนฐานราก กฏหมายสวัสดิการชุมชน ให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือน
"ช่วงเวลาที่เหลือรัฐบาลจะเร่งเดินหน้าอนุมัติทุกโครงการที่สำคัญของประเทศ ทั้งเรื่องโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด สนามบินอู่ตระเภา ดิจิทัลพาร์ค รถไฟทางคู่ ทางหลวง ซึ่งเมื่อรัฐบาลหน้าเข้ามาโครงการเหล่านี้จะสามารถเดินหาได้"
นายกอบศักดิ์ กล่าวว่า ขณะนี้เศรษฐกิจในระดับบนยังมีกำลังซื้อและไปได้ดี แต่กลุ่มระดับล่าง ซึ่งภาคเกษตรกรยังมีปัญหา รัฐบาลจึงได้อนุมัติโครงการให้ความช่วยเหลือเกษตรทั้งยางพาราและปาล์มน้ำมัน พร้อมทั้งช่วยเหลือระดับฐานรากผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
"รัฐบาลมีหน้าที่กระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศให้มีภูมิต้านทานและเข้มแข็งขึ้น พร้อมทั้งเดินหน้าลงทุน ช่วยฐานรากทำให้ประเทศไทยต้นปีหน้า มีภูมิต้านทานดีขึ้น" นายกอบศักดิ์ กล่าว
นายกอบศักดิ์ กล่าวว่า สิ่งสำคัญที่จะทำให้งานทุกอย่างเดินหน้าได้ คือ การเมืองต้องมีเสถียรภาพ ไม่ว่าใครจะเข้ามาบริหารประเทศหลังการเลือกตั้งต้องไม่มีความขัดแย้งเกิดขึ้น เพราะส่วนตัวเชื่อว่าประเทศไทยไม่แพ้ชาติใด แต่คนไทยกลับทะเลาะกันเอง จึงอยากเห็นประเทศไทยรักกันเหมือนเดิม โดยคาดว่าพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งจะประกาศได้ภายในปลายเดือนธันวาคมนี้หรือต้นเดือนมกราคม ซึ่งมีเวลาให้แต่ละพรรคการเมืองสามารถหาเสียงได้ประมาณ 55 วันหากวันเลือกตั้งยังเป็นตามกำหนดเดิม คือวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562