นางสาววชิรา อารมย์ดี ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.จัดโครงการบริหารความเสี่ยง FX ของ SMEs ระยะที่ 2 โดยได้ปรับปรุงรูปแบบโครงการให้มีความยืดหยุ่นและเพิ่มความสะดวกให้แก่ SMEs มากยิ่งขึ้น เช่น ปรับเพิ่มวงเงินค่าธรรมเนียมจาก 30,000 บาทต่อกิจการ เป็น 50,000 บาทต่อกิจการ เพื่อให้สามารถรองรับกับความผันผวนในตลาดการเงินโลกที่มีมากขึ้น รวมทั้งเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการทุกรายสามารถเข้าร่วมการอบรมสัมมนาหรือเรียนผ่านสื่อ e-Learning ได้
อย่างไรก็ตาม การให้วงเงินค่าธรรมเนียมสำหรับทดลองซื้อ FX Options ยังคงจำกัดเฉพาะผู้ประกอบการที่มีคุณสมบัติตามที่กำหนดไว้ กล่าวคือ จะต้องเป็นผู้ส่งออกหรือนำเข้าที่เป็นสมาชิก สสว. และมีรายได้ไม่เกิน 400 ล้านบาทต่อปี
ทั้งนี้ การอบรมสัมมนาของโครงการฯ จะจัดขึ้นทั้งในกรุงเทพฯ และภูมิภาค ได้แก่ ชลบุรี เชียงใหม่ ขอนแก่น และสงขลา โดยในครั้งแรกได้จัดไปแล้วเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2561 ที่ผ่านมา มีผู้ประกอบการที่ให้ความสนใจเข้าร่วมกว่า 400 กิจการ รวมประมาณ 500 คน สำหรับกำหนดการจัดอบรมสัมมนาในช่วงถัดไป หากผู้ประกอบการมีความสนใจประสงค์จะเข้าร่วมโครงการฯ สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.exim.go.th/th/training/training.aspx หรือติดต่อที่ธนาคารพาณิชย์ที่เข้าร่วมโครงการโดยตรง ได้แก่ ธ.กรุงเทพ ธ.กรุงไทย ธ.กรุงศรีอยุธยา ธ.กสิกรไทย ธ.ซีไอเอ็มบี ไทย ธ.ไทยพาณิชย์ ธ.ทหารไทย และ ธ.ยูโอบีได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จนถึงเดือนกันยายน 2562
โครงการบริหารความเสี่ยง FX ของ SMEs เป็นส่วนหนึ่งของมาตรการเพิ่มขีดความสามารถและส่งเสริมความรู้ให้กับ SMEs ในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ร่วมดำเนินการกับกระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) สมาคมธนาคารไทย และธนาคารพาณิชย์ 8 แห่ง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับประโยชน์และเครื่องมือในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนให้แก่ SMEs ผ่านการจัดอบรมสัมมนา และเปิดโอกาสให้ SMEs ได้ทดลองใช้"ประกันค่าเงิน" หรือ FX Options ในการบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนอีกด้วย