ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดที่ประชุม กนง.คงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับเดิม 3.25%

ข่าวเศรษฐกิจ Friday January 11, 2008 15:55 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดการณ์ว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของธนาคารแห่งประเทศไทย ในการประชุมรอบแรกของปีในวันที่ 16 มกราคม 2551 นี้จะมีมติให้ตรึงอัตราดอกเบี้ยตลาดซื้อคืนพันธบัตรระยะ 1 วัน ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ไว้ที่ระดับเดิมที่ร้อยละ 3.25 โดยให้น้ำหนักหลักไปที่ความเสี่ยงทางด้านเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มเร่งสูงขึ้นในปี 2551 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และสอดคล้องกับการดำเนินนโยบายการเงินภายใต้กรอบเป้าหมายเงินเฟ้อ (Inflation Targeting)            
สำหรับปัจจัยที่สนับสนุนการคาดการณ์ดังกล่าว ประกอบด้วย แรงกดดันทางด้านราคาและเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มขยับสูงขึ้นจากภาวะราคาน้ำมันตลาดโลกที่ปรับตัวผันผวนอยู่ในระดับสูงในช่วงที่ผ่านมาและมีแนวโน้มอาจดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับมีการทยอยปรับขึ้นราคาของสินค้าและบริการต่างๆ ภายในประเทศ ตลอดจนการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของดัชนีราคาผู้ผลิต ซึ่งอาจส่งผลกระทบให้มีการปรับขึ้นราคาของสินค้าและบริการในอนาคต ซึ่งศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของไทย (Headline CPI Inflation) ในไตรมาสแรกของปี 2551 อาจจะปรับขึ้นมาอยู่ในกรอบร้อยละ 3.0-4.0 และอาจมีบางเดือนที่สูงเกินระดับร้อยละ 4.0 อันเป็นผลส่วนหนึ่งจากการเปรียบเทียบกับฐานตัวเลขที่ต่ำในช่วงเดียวกันของปี 2550 และการใช้จ่ายในช่วงเทศกาลตรุษจีนซึ่งเป็นปัจจัยด้านฤดูกาล
ปัจจัยที่สอง คือ การใช้จ่ายภายในประเทศเริ่มฟื้นตัวขึ้น แต่ยังมีความเสี่ยงอีกหลายประการที่รออยู่ข้างหน้า แม้ว่าตัวเลขเศรษฐกิจไทยในไตรมาสสุดท้ายของปีที่ผ่านมาอาจจะปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงก่อนหน้า จึงคาดว่าในช่วงครึ่งแรกของปี 2551 นี้ ภาคเอกชนยังคงจับตาเรื่องสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศ โดยหากมีความลงตัว ก็น่าที่จะส่งผลให้เศรษฐกิจไทยสามารถฟื้นตัวได้ชัดเจนมากขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง โดยเฉพาะมีแรงสนับสนุนมาจากการเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐ
อย่างไรก็ตาม ยังคงมีปัจจัยเสี่ยงอีกหลายประการที่อาจจะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในระยะข้างหน้า ไม่ว่าจะเป็นราคาน้ำมันตลาดโลกที่ผันผวนอยู่ในระดับสูง และการชะลอตัวของเศรษฐกิจหลักในโลก โดยเฉพาะสหรัฐฯจากปัญหาสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ด้อยคุณภาพ (ซับไพร์ม) ทำให้ในภาพรวมแล้ว ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า จากปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ทั้งในและนอกประเทศ กนง.คงเลือกที่จะรอให้การฟื้นตัวของการใช้จ่ายภายในประเทศ ทั้งการบริโภคและการลงทุนของภาคเอกชน ปรากฏขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าจะเป็นในช่วงครึ่งหลังของปีมากกว่าครึ่งแรก ก่อนที่จะพิจารณาปรับเปลี่ยนนโยบายอัตราดอกเบี้ยไปในเชิงที่เข้มงวดมากขึ้นต่อไป

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ