นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เผยว่า แฟรนไชส์มีบทบาทที่สำคัญในการสร้างผู้ประกอบการและการจ้างงานที่เพิ่มขึ้น จึงทำให้ได้รับความสนใจจากคนรุ่นใหม่ที่ต้องการมีธุรกิจเป็นของตนเอง เนื่องจากความพร้อมในเรื่องระบบการบริหารจัดการ ระบบสนับสนุนและโลจิสติกส์ รวมถึงแบรนดิ้งของสินค้า ซึ่งเป็นที่รู้จักแล้วในตลาดที่จะช่วยลดความเสี่ยงในด้านต่างๆ ของธุรกิจได้อย่างดี ดังนั้น ระบบบริหารจัดการจึงเป็นหัวใจสำคัญของการดำเนินธุรกิจแฟรนไชส์ ไม่ว่าจะเป็นระบบการจัดการระบบการเงิน บัญชี ภาษี ระบบโลจิสติกส์ การดูแลวัตถุดิบ สต็อกสินค้า การตลาด แบรนดิ้ง การวิจัยพัฒนา R&D การควบคุมตรวจสอบคุณภาพ และสามารถส่งต่อความสำเร็จจากสาขาต้นแบบสู่สาขาอื่นๆ ได้อย่างมีคุณภาพ (แฟรนไชส์ซอร์สู่แฟรนไชส์ซี)
การขยายธุรกิจในรูปแบบแฟรนไชส์เป็นกลยุทธ์ที่ขับเคลื่อนให้ธุรกิจเติบโตแบบก้าวกระโดด แต่การจะผลักดันธุรกิจเข้าสู่ระบบแฟรนไชส์และประสบความสำเร็จได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะธุรกิจที่จะก้าวสู่การเป็นแฟรนไชส์ต้องมีความพร้อมและแข็งแกร่งในระดับหนึ่ง ไม่เช่นนั้นอาจสร้างปัญหาให้กับผู้ที่ซื้อแฟรนไชส์ (แฟรนไชส์ซี) รวมถึงตัวเองได้ในอนาคตได้
ดังนั้น เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน และยกระดับมาตรฐานคุณภาพการบริหารจัดการธุรกิจแฟรนไชส์ให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง กรมพัฒนาธุรกิจการค้าจึงได้เปิดหลักสูตรสัมมนาเชิงปฏิบัติการ "สร้างธุรกิจเข้าสู่ระบบแฟรนไชส์" (Franchise B2B) รุ่นที่ 22 ขึ้น เพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการมีความเข้มแข็งและพร้อมที่จะขยายธุรกิจด้วยระบบแฟรนไชส์ (แฟรนไชส์โมเดล) เนื่องจากเป็นที่ยอมรับในระดับสากลว่าแฟรนไชส์เป็นโมเดลการตลาดที่มีประสิทธิภาพ และสามารถช่วยให้ผู้ประกอบธุรกิจสามารถพัฒนาและขยายกิจการของตนเองได้อย่างรวดเร็ว ลดข้อจำกัดด้านเงินทุน ทำให้เกิดผู้ประกอบธุรกิจหน้าใหม่ที่สามารถบริหารจัดการธุรกิจของตนเองได้อย่างง่ายดาย
"การสร้างธุรกิจในระบบแฟรนไชส์จำเป็นต้องมี Business model ที่ชัดเจน โดยเฉพาะการสร้างระบบแฟรนไชส์จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเขียนโมเดลธุรกิจให้เป็น เพราะโมเดลธุรกิจจะเป็นตัวสะท้อน Brand D.N.A. ของธุรกิจให้มีความน่าสนใจที่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อ" นายวุฒิไกรระบุ
สำหรับหลักสูตรการสร้างธุรกิจเข้าสู่ระบบแฟรนไชส์ (Franchise B2B) รุ่นที่ 22 มีระยะเวลาตลอดหลักสูตรรวม 120 ชั่วโมง เริ่มตั้งแต่วันที่ 28 พฤศจิกายน 2561 ถึงวันที่ 5 เมษายน 2562 ประกอบด้วยความรู้พื้นฐานและเชิงลึก ซึ่งผู้ประกอบการสามารถนำความรู้ที่ได้รับหลังจบหลักสูตรไปสร้าง Business Model ที่มีความชัดเจน และเข้าใจภาพรวมธุรกิจของตัวเองมากขึ้น ทั้งความรู้เชิงวิชาการ (ความรู้เกี่ยวกับการสร้างระบบงานที่เป็นมาตรฐาน กลยุทธ์การสร้างร้านต้นแบบ แนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับภาษีเงินได้ กลยุทธ์การสร้างตราสินค้า (Brand) ให้มีประสิทธิภาพ การวิเคราะห์และคัดเลือกทำเลเปิดสาขา) กิจกรรม Workshop รวมถึงความรู้จากการแลกเปลี่ยนประสบการณ์จากธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ (How-to) เพื่อให้สอดรับกับวิถีธุรกิจที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งจะเริ่ม kick off อบรมอย่างเข้มข้นในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2561 นี้