นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง กล่าวในโอกาสเป็นประธานในพิธีเปิดสำนักงานผู้แทนในเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) โดยระบุว่า การจัดตั้งสำนักงานผู้แทนของ EXIM BANK ในเวียงจันทน์สะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลและผู้ประกอบการไทยให้ความสำคัญกับ สปป.ลาว และแสวงหาโอกาสใหม่ๆ ในการขยายรูปแบบความร่วมมือและพัฒนาบริการทางการเงินให้มีประสิทธิภาพและหลากหลายมากยิ่งขึ้น
นับเป็นผลงานชิ้นสำคัญของ EXIM BANK ในการผลักดันการค้าและการลงทุน เพื่อประโยชน์ทางเศรษฐกิจแก่ทั้งสองประเทศ อันจะส่งผลให้รายได้ประชาชาติ การลงทุน การจ้างงาน และความอยู่ดีมีสุขของประชาชนทั้งสองประเทศดีขึ้น นำไปสู่ความใกล้ชิดแน่นแฟ้นและความมั่งคั่งยั่งยืนทางธุรกิจและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยอาศัยความเชี่ยวชาญของ EXIM BANK ในการสนับสนุนทางการเงินให้แก่ธุรกิจส่งออก นำเข้า และลงทุน มายาวนานกว่า 20 ปี โดยเฉพาะโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน พลังงาน สาธารณูปโภค และอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปใน สปป.ลาว
"นอกจากการทำหน้าที่เป็นหน่วยงานหลักในการสนับสนุนเงินทุนให้กับผู้ประกอบการไทยและ สปป.ลาว ซึ่งเป็นภารกิจหลักอยู่แล้วนั้น EXIM BANK ต้องเพิ่มภารกิจ เป็น ‘ทูตมิตรภาพทางเศรษฐกิจ’ อีกตำแหน่งหนึ่ง เพื่อทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษา ให้ข้อมูลด้านการค้า การลงทุน และกฎระเบียบต่างๆ แก่ผู้ประกอบการไทยและ สปป.ลาว รวมทั้งอำนวยความสะดวกในการติดต่อกับหน่วยงานภาครัฐ กระตุ้นให้เกิดการจับคู่ทางธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการของไทยและ สปป.ลาว ภารกิจของ EXIM BANK ใน สปป.ลาว จะเข้มข้นมากยิ่งขึ้นในระยะต่อไป เพื่อให้ความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระหว่างไทยและสปป.ลาวมั่นคงและยั่งยืน" นายอภิศักดิ์ กล่าว
นายพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK กล่าวว่า นับตั้งแต่ EXIM BANK เปิดดำเนินการเมื่อปี 37 เป็นต้นมา เป็นเวลากว่า 24 ปีที่ EXIM BANK ได้ทำหน้าที่ส่งเสริมการส่งออก การนำเข้า และการลงทุน โดยเชื่อมโยงเศรษฐกิจไทยกับประเทศต่างๆ โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านที่เป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจและมิตรประเทศที่ดีมายาวนานอย่าง สปป.ลาว โดย EXIM BANK ได้สนับสนุนทางการเงินให้แก่โครงการต่างๆ ใน สปป.ลาว รวมทั้งสิ้นกว่า 30,000 ล้านบาทในโครงการพัฒนาประเทศด้านโครงสร้างพื้นฐาน เช่น การก่อสร้างถนน การลงทุนในโรงไฟฟ้า รวมถึงโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่มีการจำหน่ายไฟฟ้ากลับมายังประเทศไทย และอีกหลายโครงการในภาคอุตสาหกรรมและบริการ
EXIM BANK จัดตั้งสำนักงานผู้แทนในเวียงจันทน์เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งของทีมประเทศไทยทำงานกับภาครัฐและเอกชนไทย-สปป.ลาว เพื่อเพิ่มมูลค่าการค้าการลงทุนระหว่างทั้งสองประเทศ รวมถึงการขยายธุรกิจเชื่อมโยง CLMVT (กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา เวียดนาม และไทย) ต่อไปยังประเทศต่างๆ ในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงและอาเซียน
ทั้งนี้ สำนักงานผู้แทน EXIM BANK ในเวียงจันทน์จะทำหน้าที่ให้บริการด้านคำปรึกษาแนะนำ ข้อมูลการค้าการลงทุน รวมถึงข้อมูลเชิงลึกที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการไทยทุกขนาดธุรกิจสามารถเริ่มต้นหรือขยายการค้าการลงทุนในสปป.ลาว ได้อย่างประสบความสำเร็จ ตลอดจนอำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมทางการเงินระหว่างประเทศ แสวงหาโอกาสใหม่ๆ ทางธุรกิจให้แก่ผู้ประกอบการ ตลอดจนขยายความร่วมมือในรูปแบบใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความคาดหวังของภาครัฐและเอกชนของทั้งสองประเทศ ขับเคลื่อนให้เกิดการขยายตัวทางเศรษฐกิจและการพัฒนาในระดับประเทศและระดับภูมิภาค
สปป.ลาวเป็นประเทศที่มีประชากร 7 ล้านคน มีขนาดเศรษฐกิจเล็กที่สุดใน CLMVT ไม่มีทางออกสู่ทะเล แต่เป็นประเทศที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดว่าจะมีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจเฉลี่ยในช่วงปี 2561-2565 ราว 7% ต่อปี สูงที่สุดใน CLMVT และสูงเป็นอันดับต้นๆ ของโลก โดยอาศัยจุดแข็งของ สปป.ลาวในการมีพรมแดนติดกับ CLMVT และจีน ทำให้ สปป.ลาว เป็นประตูเชื่อมโยงเครือข่ายพลังงาน เส้นทางคมนาคมขนส่ง การท่องเที่ยว และการค้าของภูมิภาค
ในโอกาสนี้ กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK และนายอุเดด สุวันนะวง ประธานสภาการค้าและอุตสาหกรรมแห่งชาติลาว (LNCCI) ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่าง EXIM BANK กับ LNCCI เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนความร่วมมือด้านข้อมูล บริการทั้งทางการเงินและมิใช่การเงิน รวมถึงการร่วมกันจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อขยายโอกาสในด้านการค้าการลงทุนระหว่างสองประเทศ อันจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการไทยและผู้ประกอบการลาว