พล.ร.อ.โสภณ วัฒนมงคล รองผู้บัญชาการทหารเรือ กล่าวว่า โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออกมีมูลค่าลงทุนรวมกว่า 2 แสนล้านบาท ภาครัฐจะดำเนินการในส่วนของการก่อสร้างรันเวย์ มูลค่าลงทุนประมาณ 1 หมื่นกว่าล้านบาทและวิทยุการบิน มูลค่าลงทุนประมาณกว่า 5 พันล้านบาท และหลังจากได้ภาคเอกชนร่วมลงทุนแล้ว โดยงานก่อสร้างจะเริ่มปี 2564 และคาดว่าใช้เวลาก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2567
ทั้งนี้ ส่วนที่เอกชนลงทุนได้แก่ อาคารผู้โดยสารหลังที่ 3 ศูนย์การขนส่งภาคพื้น (Ground Transport Center) ศุนย์ธุรกิจการค้าเพื่อพัฒนาพื้นที่ในสนามบินอู่ตะเภา (Commercial Gateway) เขตประกอบการค้าเสรีและเขตธุรกิจเกี่ยวเนื่องในสนามบินอู่ตะเภา (Cargo Village) ศูนย์ธุรกิจขนส่งสินค้าและโลจิสติกส์ (Cargo Complex)
นายโชคชัย ปัญญายงค์ ผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านโครงสร้างพื้นฐาน สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) กล่าวว่า เอกชนร่วมลงทุนจะนำเสนอกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจเชิงพาณิชย์ ข้อเสนอการประกันส่วนแบ่งรายได้ขั้นต่ำ 5.9 หมื่นล้านบาทตลอดระยะเวลาร่วมลงทุน 50 ปี หรือสิ้นสุดปี 2613
นอกจากนี้เอกชนต้องยื่นข้อเสนอส่วนแบ่งรายได้ในอัตราไม่น้อยกว่า 5% ถ้ารายใดให้สูงกว่าก็จะได้เปรียบในการพิจารณา พร้อม หากบริษัทใดให้เสนอส่วนแบ่งรายได้มากที่สุดก็มีโอกาสชนะการคัดเลือก
ทั้งนี้ หลักเกณฑ์การพิจารณาคัดเลือกเอกชนจะให้คะแนนข้อเสนอด้านเทคนิค และด้านแผนธุรกิจ อย่างละ 50 คะแนน และต้องมีคะแนนรวมกันไม่น้อยกว่า 80% โดยในส่วนแผนธุรกิจจะพิจารณาความสามารถในการจัดหาเงินทุนเพื่อใช้ในการดำเนินโครงการ ,กลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจเชิงพาณิชย์ ประสบการณ์และศักยภาพของผู้ยื่นข้อเสนอ แผนโครงสร้าง องค์กรและบุคคลากร และความสามารถของบุคคลากร รวมทั้งแผนการถ่ายทอดความรู้และเทคโนโลยี ขณะที่ด้านเทคนิค จะพิจารณาข้อเสนอการทบทวนแบบแผนแม่บทสนามบิน ข้อเสนอการออกแบบอาคารผู้โดยสารหลังที่ 3 ข้อเสนอแผนการดำเนินโครงการ และข้อเสนอแผนการดำเนินงานและบำรุงรักษา
สำหรับคุณสมบัติของผู้ยื่นข้อเสนอ เป็นนิติบุคคลรายเดียว ผู้ยื่นข้อเสนอต้องมีผู้ถือหุ้นเป็นบุคคลหรือนิติบุคคลไทยอย่างน้อย 1 ราย ถือหุ้นมีสัดส่วนเกินกว่า 25%ของทั้งหมดและจดทะเบียนมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปีนับวันยื่นข้อเสนอ หรือนิติบุคคลหลายรายรวมกันเป็น กิจการค้าร่วม (Consortium) หรือกิจการร่วมค้า (Joint Venture) ที่ไม่ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลใหม่ ผู้ยื่นข้อเสนอดั้งกล่าวต้องมีสมาชิกที่เป็นนิติบุคคลไทยอย่างน้อย 1 รายทีมีสัดส่วนการลงทุนเกินกว่า 25% ของจำนวนเงินลงทุนทั้งหมด
นอกจากนี้คุณสมบัติของผู้ยื่นข้อเสนอต้องมีมูลค่าสุทธิรวมของสินทรัพย์มีตัวตน (Net Tangible Worth) เป็นจำนวนเงินไม่น้อยกว่า 1 หมื่นล้านบาท (สินทรัพย์มีตัวตน เท่ากับ สินทรัพย์รวมหักสินทรัพย์ไม่มีตัวตน หักหนี้สินรวม) รวมทั้งประสบการณ์ของผู้ยื่นข้อเสนอทั้งด้านการให้บริการและบำรุงรักษษสนามบิน และด้านการพัฒาและการก่อสร้างโครงการสนามบิ และด้านการพัฒนาอสังหาริมทรพัยิ์งพาณิชย์ หรือด้านโครงสร้างพื่นฐานและสาธารณูปโภค
อนึ่ง ในวันนี้ กองทัพเรือจัดการประชุมชี้แจงแบบและลงพื้นที่สนามบินอู่ตะเภาในการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุน โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมือนการบินภาคตะวันออก ครั้งที่ 1 เพื่อเปิดเวทีให้ผู้ซื้อเอกสารได้ซักถามข้อสงสัยต่างๆ เกี่ยวกับการลงทุนและข้อมูลเกี่ยวกับโครงการ โดยมีนักลงทุนซื้อซองข้อเสนอจำนวน 42 ราย หลังปิดการขายเอกสารเมื่อ 29 พ.ย.ทีผ่านมา และจะพานักลงทุนลงพื้นที่สนามบินอู่ตะเภาเพื่อให้เห็นพื้นที่จริงในวันที่ 1 ธ.ค.นี้