โกลด์แมนแซคส์ลดคาดการณ์ GDP จีนปีนี้ลดลงเหลือ 10% เหตุศก.สหรัฐชะลอตัว

ข่าวต่างประเทศ Monday January 14, 2008 14:09 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          โกลด์แมน แซคส์ ได้ลดการคาดการณ์การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีนปี 2551 ลงเหลือ 10.0% จากเดิมที่ 10.3% เนื่องจากมีการคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐอาจจะเข้าสู่ภาวะถดถอยในปีนี้ และจะทำให้ความต้องการทั่วโลกชะลอตัวลง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกของจีน
สำนักข่าวซินหัวไฟแนนซ์รายงานว่า โกลด์แมน แซคส์ ระบุว่า ข้อมูลทางเศรษฐกิจที่ได้มีการเปิดเผยเมื่อเร็วๆนี้ชี้ให้เห็นว่า ผลกระทบจากตลาดที่อยู่อาศัยที่ซบเซาและภาวะสินเชื่อที่ตึงตัวขึ้นกำลังฉุดเศรษฐกิจสหรัฐให้เข้าสู่ภาวะถดถอย จีนจึงปรับลดการคาดการณ์การขยายตัวเศรษฐกิจจีนปี 2551 ลง นอกจากนี้ ภาวะอ่อนตัวที่มีมากขึ้นกว่าเดิมยังมาจากการขยายตัวของการส่งออกที่ชะลอตัวลง
นอกจากนี้ โกลด์แมน แซคส์ยังระบุด้วยว่า การขยายตัว GDP ของจีนในปี 2550 จะอยู่ที่ระดับ 11.6% ส่วนการขยายตัวทางเศรษฐกิจชะลอตัวลงสู่ระดับ 11.2% ในไตรมาส 4 จากระดับไตรมาส 3 ที่ 11.5% สาเหตุเบื้องต้นมาจากการส่งออกที่ชะลอตัวลง
โดยการขยายตัวด้านการส่งออกชะลอตัวลงสู่ระดับ 12% เมื่อเทียบเป็นรายปีในไตรมาส 4 จากระดับ 50% ในไตรมาส 3
ส่วนอัตราเงินเฟ้อคาดว่าจะชะลอตัวลงสู่ระดับประมาณ 6.6% ในเดือนธ.ค. จากระดับเดือนพ.ย.ที่อยู่ในระดับสูงที่ 6.9% ส่วนใหญ่เนื่องมาจากผลกระทบในระดับพื้นฐานที่มีอยู่มาก แต่แรงกดดันด้านเงินเฟ้อยังคงมีอยู่
รายงานชี้ว่า เราเชื่อว่า แรงกดดันด้านเงินเฟ้อยังมีอยู่มาก รวมทั้งความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากอัตราเงินเฟ้อที่คาดว่าจะดีดตัวขึ้นในช่วง 2-3 เดือนข้างหน้านี้
อัตราเงินเฟ้อผู้บริโภคของจีนในเดือนธ.ค.คาดว่าจะขยายตัวแตะระดับ 4.8% จากระดับ 4.6% ในเดือนพ.ย. เพราะได้รับปัจจัยหนุนจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ เหล็ก น้ำมัน และถ่านหินที่สูงขึ้น
โกลด์แมนแซคส์คาดว่า จีนจะยังคงใช้นโยบายคุมเข้ม ซึ่งจะเกี่ยวพันกับการควบคุมสินเชื่อภายในประเทศ การควบคุมการแข็งค่าของเงินหยวน การขึ้นเพดานสำรอง แต่จะยังไม่มีการขึ้นอัตราดอกเบี้ย หากข้อมูลเดือนธ.ค.แข็งแกร่ง เราจะเห็นความเสี่ยงเรื่องเงินเฟ้อมากขึ้น รวมทั้งการใช้มาตรการคุมเข้มมากขึ้นเช่นกัน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ