ผู้ว่า กฟผ.เผยชะลอแผนระดมทุนในช่วง 1-2 ปีออกไปเหตุมีกระแสเงินสดเพียงพอ

          นายสมบัติ ศานติจารี ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) เปิดเผยว่า ในช่วง 1-2 ปีนับจากนี้ไปยังไม่มีแผนระดมทุนด้วยการออกพันธบัตรหรือกู้เงินจากเดิมที่เคยวางแผนกู้เงินเพื่อนำมาลงทุนในปี 51-52 ไว้ราวปีละ 7-8 พันล้านบาท เนื่องจากขณะนี้ยังมีกระแสเงินสดเหลืออยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งได้จัดสรรสำหรับใช้ลงทุนในเรื่องต่างๆ ไว้เรียบร้อยแล้ว แต่ในปี 53 จะกลับมาพิจารณาอีกครั้งว่ามีความจำเป็นที่จะต้องระดมทุนอีกหรือไม่
          ปัจจุบัน กฟผ.มีสินทรัพย์รวม 4 แสนล้านบาท และมีหนี้สินรวม 2 แสนล้านบาท
          สำหรับปีนี้ กฟผ.มีแผนจะลงทุนสร้างโรงไฟฟ้า 4 แห่ง ได้แก่ โรงไฟฟ้าสงขลา, โรงไฟฟ้าพระนครเหนือ, โรงไฟฟ้าพระนครใต้ และโรงไฟฟ้าบางปะกง ซึ่งแต่ละแห่งจะใช้เวลาก่อสร้างราว 3-4 ปี ดังนั้นจึงเป็นการทยอยลงทุน ส่วนโรงไฟฟ้าจะนะขณะนี้การก่อสร้างใกล้เสร็จสิ้นแล้ว
          ผู้ว่าการ กฟผ.กล่าวว่า ตามแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้า(PDP 2007) ในช่วง 5 ปีหลังจากนี้ไป กฟผ.มีแผนจะลงทุนประมาณ 5 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นรายได้ของตัวเอง 25% หรือราว 1.25 แสนล้านบาท ส่วนที่เหลือเป็นการออกพันธบัตรหรือกู้เงิน
          ทั้งนี้ ในปี 58 กฟผ.จะเร่งนำโรงไฟฟ้าถ่านหินเข้าระบบ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาหาพื้นที่ที่เหมาะสมราว 2-3 แห่ง รวมทั้งทำความเข้าใจกับประชนชนในพื้นที่ ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปลายปี 52