รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้คาดว่ากระทรวงพลังงานจะนำเสนอผลการประมูลสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียมแปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทย หมายเลข G1/61 และ G2/61 (แหล่งเอราวัณ-บงกช) ให้ ครม.พิจารณา ซึ่งทั้งสองแหล่งมี บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) เข้ายื่นประมูลและมีกระแสข่าวว่ามีโอกาสสูงที่จะเป็นผู้ชนะประมูล ขณะที่ รมว.พลังงงานจะมีการแถลงข่าวความคืบหน้าของการประมูลดังกล่าวที่ทำเนียบรัฐบาลในช่วงบ่ายของวันนี้
ขณะที่ รมว.เกษตรและสหกรณ์ จะนำมติคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ (กนย.) เกี่ยวกับโครงการรักษาเสถียรภาพยางพาราเสนอให้ ครม.พิจารณา ประกอบด้วย 3 มาตรการ คือ 1.โครงการสร้างความเข้มแข็งให้เกษตรกรชาวสวนยาง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรชาวสวนยางพาราในพื้นที่มีเอกสารสิทธิ์ที่เปิดกรีดแล้ว และขึ้นทะเบียนกับการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) โดยจะให้ความช่วยเหลือเกษตรกรตามพื้นที่เปิดกรีดจริงไร่ละ 1,800 บาท ไม่เกินรายละ 15 ไร่ (กรณีมีคนกรีดยางแบ่งเป็นเจ้าของสวนยาง 1,100 บาทต่อไร่ และคนกรีดยาง 700 บาทต่อไร่) วงเงิน 17,512,734,883 บาท
2.โครงการรณรงค์สร้างถนน 1 หมู่บ้าน 1 กิโลเมตร โดยสนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) นำน้ำยางพาราไปใช้สร้างถนนพาราซอยด์ซีเมนต์ทั่วประเทศจำนวน 75,032 หมู่บ้าน หมู่บ้านละ 1 กิโลเมตร รวมระยะทาง 75,032 กิโลเมตร คาดว่าสามารถเพิ่มปริมาณการใช้ยางภายในประเทศมากขึ้นโดยการนำยางพารามาใช้ในการทำถนนเป็นจำนวนน้ำยางสด 1,440,614.4 ตัน หรือคิดเป็นน้ำยางข้น 720,320.2 ตัน มูลค่าประมาณ 16,326 ล้านบาท
และ 3.โครงการส่งเสริมสถาบันเกษตรกรให้มีบทบาทรักษาเสถียรภาพราคายางพารา โดยกรมส่งเสริมสหกรณ์สนับสนุนให้สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรที่มีศักยภาพและมีความพร้อมเป็นแหล่งรับซื้อยางพาราจากสมาชิกเกษตรกรและรวมตัวกันเพื่อจำหน่ายยางพาราเพื่อการส่งออก วงเงินสินเชื่อของ ธ.ก.ส.จำนวน 5,000 ล้านบาท
นอกจากนั้น กระทรวงการคลังจะเสนอมาตรการช็อปช่วยชาติเพื่อเป็นการกระตุ้นกำลังซื้อภายในประเทศ ซึ่งมาตรการดังกล่าวจะแตกต่างจากปีก่อน โดยจะลดหย่อนภาษีให้กับรายจ่ายที่ใช้ซื้อสินค้าประเภทยางรถยนต์ หนังสือหรือ e-Book และสินค้าโอท็อป
พร้อมกันนั้นจะเสนอให้ ครม.อนุมัติมาตรการแจกซิมโทรศัพท์เคลื่อนที่ให้ผู้มีรายได้น้อยให้ได้ใช้อินเตอร์เน็ตฟรี เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนเข้าถึงแหล่งข้อมูลและข่าวสารที่จำเป็นต่อการยกระดับคุณภาพชีวิตให้หลุดพ้นความยากจน โดยมี 2 รูปแบบ คือ กรณีผู้มีรายได้น้อยมีซิมโทรศัพท์และมีอินเตอร์เน็ตใช้อยู่แล้วจะเพิ่มจำนวนอินเตอร์เน็ตฟรีให้เพียงพอต่อการใช้ ส่วนกรณีที่ยังไม่มีซิมโทรศัพท์ก็จะแจกซิมพร้อมสัญญาณอินเตอร์เน็ต
รวมทั้งให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ศึกษาแนวทางเปิดลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อยเข้าโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ โดยจะเปลี่ยนข้อมูลที่ใช้คัดเลือกจากปัจจุบันใช้ข้อมูลรายได้รายบุคคลให้ปรับเป็นข้อมูลรายได้เป็นรายครัวเรือน เนื่องจากที่ผ่านมาพบช่องโหว่การลงทะเบียน เช่น แม้ไม่มีรายได้อยู่บ้านเฉยๆ แต่ลูกฐานะร่ำรวยก็ได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
ขณะที่ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) จะพิจารณามาตรการสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำ เพื่อรองรับกลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ไม่ได้มีการลงทะเบียนประมาณ 2 ล้านกว่าราย และผู้ประกอบการในกลุ่มคนตัวเล็กให้สามารถเดินหน้าธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้าการประชุม รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นำคณะผู้บริหารเข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อรณรงค์การจัดกิจกรรมรับบริจาคถุงผ้าใส่ยากลับบ้าน, รมว.วัฒนธรรม นำคณะผู้บริหารประชาสัมพันธ์วันคนพิการสากล, รมว.สาธารณสุข นำคณะเสนอผลการดำเนินงานกิจกรรมอาสาปราบยุงลายควบคุมโรคไข้เลือดออก และปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี นำคณะเข้าพบเพื่อประชาสัมพันธ์กิจกรรมเดินรณรงค์ "คน รัก คลอง"..."ไม่ทิ้ง ไม่เท ทุ่มทำความดี"